เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ขัน ดีขึ้นได้ ด้วย 5 วิธีนี้ โดยไม่ต้องพึ่งยา

นกเขาไม่ขัน หรือ โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นปัญหาสุขภาพที่คุณผู้ชายหลายคนต้องพบเจอ จากข้อมูลพบว่ามีผู้ชายมากกว่า 152 ล้านคนทั่วโลกที่กำลังประสบกับปัญหานี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออายุมากขึ้นหรือต้องเจอกับความเครียดในชีวิตประจำวัน ปัญหานกเขาไม่ขันไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย แต่ยังสร้างบาดแผลทางจิตใจ ทำให้เกิดความวิตกกังวล ซึมเศร้าหรือรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง นอกจากนี้ยังอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ในชีวิตคู่และการวางแผนมีบุตรในอนาคต หากคุณผู้ชายท่านไหนที่กำลังประสบปัญหานกเขาไม่ขัน อวัยวะเพศไม่แข็งตัว และกำลังมองหาวิธีฟื้นฟูร่างกายโดยไม่ต้องพึ่งพายา บทความนี้จาก LINNA Clinic มีคำตอบ

Table of Contents

โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ คืออะไร

โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ขัน มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction: ED) คือ ภาวะที่อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว หรือไม่สามารถแข็งตัวได้นานพอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวหรือเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจนสร้างผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคุณผู้ชายทั้งด้านสุขภาพร่างกายเนื่องจากภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ขัน อาจเป็นสัญญาณขั้นต้นของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวานหรือความผิดปกติของฮอร์โมน ด้านอารมณ์และจิตใจ ทำให้คุณผู้ชายรู้สึกอับอาย วิตกกังวลหรือซึมเศร้า อีกทั้งยังส่งผลต่อชีวิตคู่ ทำให้ความสัมพันธ์เกิดความตึงเครียดและเปราะบาง

อาการและสาเหตุของโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ อาการของโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ขัน

  • อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ไม่สามารถทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ หรือแข็งตัวได้ไม่เพียงสำหรับการมีเพศสัมพันธ์
  • การแข็งตัวของอวัยวะเพศไม่คงที่ อวัยวะเพศสามารถแข็งตัวได้ในช่วงเริ่มต้นแต่ไม่สามารถรักษาสภาพการแข็งตัวไว้ได้ตลอดระยะเวลาการปฏิบัติกิจทางเพศ ส่งผลให้ไม่เกิดความพึงพอใจหรือความสำเร็จในการมีเพศสัมพันธ์
  • ความต้องการทางเพศลดลง ที่อาจเกิดขึ้นได้ในบางรายเนื่องจากความผิดปกติของฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) รวมไปจนถึงความเครียดและวิตกกังวลซึ่งส่งผลโดยตรงกับสมรรถภาพทางเพศ
  • มีปัญหาหลั่งเร็วหรือหลั่งช้า ทั้งการหลั่งที่เกิดขึ้นเร็วเกินไป (Premature Ejaculation) หรือความยากลำบากในการถึงจุดสุดยอด (Delayed Ejaculation) จนส่งผลต่อความพึงพอใจในชีวิตทางเพศ

สาเหตุของโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

จากข้อมูลทางการแพทย์พบว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศอาจเกิดขึ้นจาก สาเหตุทางด้านร่างกาย ด้านจิตใจ พฤติกรรม และอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุร่วมกัน ดังนี้

  • ความผิดปกติของอวัยวะเพศ เช่น อวัยวะเพศสั้นหรือเล็กผิดปกติ (Micropenis) เนื่องจากการพัฒนาตัวได้ไม่เต็มที่ของอวัยวะเพศ โรคเพโรนีย์ (Peyronie’s Disease) ทำให้อวัยวะเพศมีลักษณะโค้งงอผิดปกติและแข็งตัวได้ยาก ความผิดปกติของหลอดเลือดและเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับอวัยวะเพศ รวมถึงการบาดเจ็บที่อวัยวะเพศ อุ้งเชิงกรานหรือไขสันหลัง ส่งผลให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือแข็งตัวได้ไม่นานพอ
  • การเปลี่ยนแปลงด้านฮอร์โมน ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย ส่งผลให้ระดับเทสโทสเทอโรนลดลง หรือความไม่สมดุลของฮอร์โมนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์
  • ผู้มีประวัติป่วยเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต โรคทางระบบประสาท โรคอ้วน
  • ความผิดปกติด้านจิตใจ เช่น ความเครียดและวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า
  • การใช้ยารักษาโรคบางชนิดที่อาจส่งผลกระทบต่อแรงขับทางเพศ เช่น ยาต้านซึมเศร้า ยารักษาโรคลมชักและโรคชัก ยาลดความดันโลหิต ยากล่อมประสาท ยารักษาโรคพาร์กินสัน ยาต้านฮอร์โมนหรือยารักษามะเร็ง ฯลฯ
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุราและแอลกอฮอล์ การใช้ยาและสารเสพติด การขาดการออกกำลังกาย และการพักผ่อนไม่เพียงพอ

5 แนวทางการฟื้นฟูดูแลสำหรับลดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

ปัญหานกเขาไม่ขัน หรือภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ สามารถฟื้นฟูให้ดีขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพายาเพียงอย่างเดียวเสมอไป ด้วยวิธีดูแลร่างกายและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังนี้

  • ลดหรืองดสูบบุหรี่ เพื่อช่วยฟื้นฟูการทำงานของหลอดเลือดและเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังอวัยวะเพศ ลดโอกาสเกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้การลดหรืองดสูบบุหรี่ยังช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน และลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ฯลฯ
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น การเดิน วิ่ง ว่ายน้ำ หรือการบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Kegel Exercises) เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศโดยรวม นอกจากนี้การออกกำลังกายเป็นประจำยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการเกิดโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
  • โปรแกรม Ozone Therapy ด้วย Eboo+ Technique นวัตกรรมทางเลือกเพื่อการบำบัดร่างกายด้วยการเติมโอโซนบริสุทธิ์ (Ozone) เข้ากับเลือดและกรองทำความสะอาดด้วยฟิลเตอร์ชนิดพิเศษ จากนั้นเลือดที่ได้รับการบำบัดจะถูกส่งกลับเข้าสู่ร่างกายอย่างช้าๆ วิธีนี้ช่วยเพิ่มออกซิเจนและพลังงานในระดับเซลล์ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดการอักเสบและช่วยกำจัดสารพิษในหลอดเลือด ส่งผลให้หลอดเลือดแข็งแรงและทำงานได้อย่างเต็มที่ ช่วยฟื้นฟูดูแลและลดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทุกขั้นตอนของ โปรแกรม Ozone Therapy Eboo+ Technique ที่ LINNA Wellness อยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในด้าน Ozone Therapy (EBOO PLUS Technique) มากกว่า 12 ปี และผ่านการดูแลผู้ป่วยมาแล้วกว่า 20,000 ราย จึงมั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยของโปรแกรมบำบัด
  • ให้ฮอร์โมนชายทดแทน (Testosterone Replacement Therapy :TRT) ในกรณีที่ระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำกว่าปกติแพทย์อาจพิจารณาการให้ฮอร์โมนเพศชายทดแทนด้วยการใช้ยารับประทาน การฉีดยา การใช้แผ่นแปะหรือการฝังฮอร์โมนใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อฟื้นฟูแรงขับทางเพศ ช่วยเพิ่มระดับพลังงานและปรับปรุงการแข็งตัวของอวัยวะเพศให้ดีขึ้น โดยกระบวนการรักษานี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
  • ลดความเครียดและจัดการอารมณ์ ความเครียดและความวิตกกังวลส่งผลโดยตรงต่อสมรรถภาพทางเพศ การจัดการอารมณ์ด้วยวิธีต่างๆ เช่น การทำสมาธิ โยคะ การพูดคุยกับนักจิตวิทยา หรือการทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายเพื่อปรับสมดุลจิตใจ ลดความวิตกกังวลและเสริมความมั่นใจในตนเอง

โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ขัน อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุร่วมกันซึ่งส่งผลกระทบโดยรวมทั้งต่อสุขภาพร่างกาย จิตใจ ตลอดไปจนถึงความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ อย่างไรก็ตามสามารถใช้วิธีดูแลฟื้นฟูและลดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้โดยไม่ต้องพึ่งยาด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพอย่างเหมาะสม พยายามงดหรือลดสูบบุหรี่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำจิตใจให้แจ่มใส การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ฮอร์โมนทดแทน และนวัตกรรมทางเลือกเพื่อช่วยฟื้นฟูภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศด้วยโปรแกรม Ozone Therapy Eboo+ Technique โดยอาจารย์แพทย์ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 12 ปี สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อ LINNA Clinic เพื่อรับการประเมินอย่างละเอียดและวางแผนการฟื้นฟูสุขภาพได้ที่ไลน์ @linnaclinic หรือโทร 063-609-8888

Related Articles

8 ข้อควรรู้ก่อนฉีดสเต็มเซลล์ Stem Cell หน้าใส ย้อนวัยระดับ DNA

พูดได้เลยว่าในปัจจุบันมีหัตถการที่ช่วยยกกระชับ ปรับผิวให้กลับมาเรียบเนียนเต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ยิ่งกว่าที่เคยให้เราเลือกทำหลากหลายวิธีมาก ซึ่งแต่ละวิธีก็มีจุดเด่นและให้ผลลัพธ์หลังการรักษาที่แตกต่างกันออกไป หนึ่งในหัตถการที่ช่วยย้อนวัยให้ผิวลึกถึงระดับเซลล์ ที่โด่งดังและมีประวัติใช้รักษามาอย่างยาวนาน คือ การฉีดสเต็มเซลล์ (Stem Cell) ที่ใช้วิธีเซลล์ซ่อมเซลล์ การฉีด Stem Cell คืออะไร? ปลอดภัยและเห็นผลดีจริงไหม? ลินนาคลินิก (Linna Clinic) รวม 8 ข้อควรรู้ก่อนฉีดสเต็มเซลล์ (Stem cell) มาไว้เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบการตัดสินใจให้กับทุกคนไว้ในบทความนี้แล้ว Table of Contents Stem cell คืออะไร ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนว่าในร่างกายของเรานั้นประกอบขึ้นด้วยเซลล์ขนาดเล็กจิ๋ว กว่า 100 ล้านล้านเซลล์ ซึ่งเซลล์เหล่านี้จะรวมตัวกันและกลายเป็นระบบอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพื่อทำให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้ เช่น เซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์ผิวหนัง เซลล์ประสาท เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์เม็ดเลือดแดงและเซลล์เม็ดเลือดขาว ฯลฯ สเต็มเซลล์ (Stem Cell) คือ เซลล์ต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิต ซึ่งจัดเป็นเซลล์ตัวอ่อนที่ยังไม่มีหน้าที่จำเพาะเจาะจง และสามารถแบ่งตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งในภายหลังสเต็มเซลล์สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์อื่นๆ ได้ เช่น

Brain Fog คืออะไร? สาเหตุ อาการ และวิธีฟื้นฟูภาวะสมองล้า

คุณเคยรู้สึกว่าเวลาที่ร่างกายตื่นแล้ว แต่สมองกลับทำงานช้าลง คิดอะไรไม่ออก หรือขาดสมาธิใช่ไหม? อาการเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะที่เรียกว่า Brain Fog หรือภาวะสมองล้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและประสิทธิภาพการทำงานได้มากกว่าที่คิด บทความนี้จะพาคุณทำความรู้จัก Brain Fog ตั้งแต่อาการ สาเหตุ วิธีป้องกัน และแนวทางฟื้นฟูสมองให้กลับมาแจ่มชัดเหมือนเดิม Table of Contents Brain Fog คืออะไร? Brain Fog หรือ “สมองล้า–สมองลอย” ไม่ได้เป็นโรคโดยตรง แต่เป็น ภาวะผิดปกติชั่วคราวของการทำงานสมอง ทำให้เกิดอาการเหมือนสมองไม่ปลอดโปร่ง คิดช้า สมาธิสั้น หลงลืมง่าย หรือรู้สึกเบลอๆ เหมือนมีหมอกปกคลุมอยู่ในหัว คนที่เป็นมักจะบอกว่า “คิดอะไรไม่ออก สมองตัน” นี่อาจเป็น สัญญาณเตือน ว่าร่างกายและสมองกำลังเผชิญกับภาวะ Brain Fog เกิดความเครียด ความล้า หรือความไม่สมดุลบางอย่าง เช่น ฮอร์โมน การนอนหลับ หรือสารอาหารที่ขาดหายไป อาการที่บ่งบอกว่ากำลังเผชิญกับ Brain Fog Brain

Apple Watch ผู้ช่วยสุขภาพที่ไม่ได้แค่บอกเวลา

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการใช้ชีวิตประจำวัน อุปกรณ์เล็กๆ บนข้อมืออย่าง Apple Watch กลายเป็นผู้ช่วยดูแลสุขภาพที่หลายคนคาดไม่ถึง เพราะนอกจากบอกเวลาได้แล้ว ยังสามารถติดตามการออกกำลังกาย ตรวจวัดการเต้นของหัวใจ บันทึกการนอน ไปจนถึงช่วยเตือนให้คุณลุกขึ้นขยับร่างกายเมื่อคุณนั่งนานเกินไป เรียกได้ว่าเป็น “โค้ชสุขภาพส่วนตัว” ที่อยู่ใกล้ตัวคุณตลอด 24 ชั่วโมง Table of Contents Apple Watch คืออะไร Apple Watch คือ สมาร์ตวอทช์ (Smartwatch) ที่ผลิตโดยบริษัท Apple Inc. เป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่ข้อมือ ซึ่งออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับ iPhone เป็นหลัก แต่รุ่นใหม่ๆ จะมีความสามารถในการเชื่อมต่อ Cellular เพื่อใช้งานได้อิสระมากขึ้น เป็นอุปกรณ์สวมใส่สุดอัจฉริยะที่ผสมผสานระหว่างฟังก์ชันการบอกเวลา การเชื่อมต่อสื่อสาร ที่โดดเด่นที่สุดคือคุณสมบัติด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย ทำให้มันกลายเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่คอยดูแลสุขภาพรวมทั้งช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งาน Apple Watch ทำอะไรได้บ้าง หน้าที่พื้นฐานของนาฬิกาคือการบอกเวลา แต่ Apple Watch สามารถแสดงข้อมูลอื่นๆ บนหน้าปัดได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น วันที่ สภาพอากาศ กิจกรรมประจำวัน

Shopping Cart
Scroll to Top