การฉีดโบท็อก (Botox) ในปัจจุบันคลินิกส่วนใหญ่จะมีโบท็อก (Botox) หลายยี่ห้อให้คนไข้เลือก ซึ่งโบท็อก (Botox) เกาหลีและอเมริกาเป็นโบท็อก (Botox) ที่ได้รับความนิยมมากค่ะ สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลการฉีดโบท็อก (Botox) หมอจะอธิบายว่าโบท็อก (Botox) เกาหลีอเมริกาคืออะไร มีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจค่ะ
Table of Contents
โบท็อก (Botox) เกาหลี คืออะไร
โบท็อก (Botox) เกาหลี คือ โบท็อก (Botox) ที่ผลิตและนำเข้ามาจากสาธารณรัฐเกาหลีหรือประเทศเกาหลีใต้ เริ่มใช้กันมาเกือบ 10 ปี ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในประเทศไทย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะกระแสความนิยมของนักแสดงและนักร้องเกาหลีที่โด่งดังในเมืองไทย เลยทำให้หลายคนเริ่มอยากมีใบหน้าเรียวเหมือนคนเกาหลี เมื่อโบท็อก (Botox) เกาหลีเข้ามาประเทศไทย ทุกคนจึงมีความนิยมฉีดของเกาหลี เพราะหวังว่าจะได้หน้าเรียวสวยแบบไอดอลเกาหลี และโบท็อก (Botox) เกาหลีค่อนข้างได้รับความนิยมด้วยราคาที่ถูกกว่ามาก ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจากอย. เช่นยี่ห้อ Botulax และ Nabota ความบริสุทธิ์เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 98.7%
โบท็อก (Botox) เกาหลีกับอเมริกาตัวไหนดีกว่ากัน
ข้อดี: ราคาที่ไม่แพงมากเมื่อเทียบกับโบท็อก (Botox) อเมริกา จากประสบการณ์ของหมอในการใช้โบท็อก (Botox) เกาหลีพบว่ามีการออกฤทธิ์ไวกว่าเล็กน้อยค่ะ
ข้อเสีย: โบท็อก (Botox) เกาหลีมีระยะเวลาออกฤทธิ์สั้นกว่าโบท็อก (Botox) อเมริกา เฉลี่ยอยู่ที่ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับผิว วิธีการดูแลและการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ
โบท็อก (Botox) อเมริกา คืออะไร
โบท็อก (Botox) อเมริกา คือ โบท็อก (Botox) ที่ผลิตและนำเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ยี่ห้อที่มีชื่อเสียง เช่น Allergan Botox ผลิตโดย Allergan บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ชั้นนำของสหรัฐอเมริกา โดยผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างเข้มข้น มีผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้ และถือเป็นมาตรฐานชั้นเลิศของโบท็อก(Botox)
ข้อดี: มีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% เป็นโบท็อก (Botox) ที่มีความบริสุทธิ์มากโดยโอกาสในการดื้อยาหลังจากฉีดหลายๆครั้งก็จะน้อยลง และยากระจายตัวแคบ หมอจึงสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อก (Botox) ได้แม่นยำ มีอายุการใช้งานนานกว่าโบท็อก (Botox) เกาหลีประมาณ 20% ค่ะ
ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าโบท็อก (Botox) เกาหลีเป็นเท่าตัว ในกรณีที่ต้องการฉีดโบท็อก(Botox) อเมริกาไม่ถึง 50ยูนิต/100ยูนิต ให้ระวังโบท็อก (Botox) ปลอมค่ะ เพราะมีหลายๆ คลินิกขายโบท็อก (Botox) อเมริกาเป็นยูนิตในราคาถูก (หรือบางคลินิกขายแพงแต่ใช้ของปลอมก็มีค่ะ) โดยใช้โบท็อก (Botox) ของเกาหลีใส่ขวด Allergan มาฉีดให้โดยที่คนไข้ไม่รู้ก็เป็นได้ค่ะ
โบท็อก (Botox) เกาหลีกับอเมริกาแตกต่างกันอย่างไร
หมอขออธิบายความแตกต่างระหว่างโบท็อก (Botox) เกาหลีกับอเมริกา ดังนี้
- โบท็อก (Botox) เกาหลีมีความบริสุทธิ์อยู่ที่ 98.7% โดยประมาณ ซึ่งยังต่ำกว่าโบท็อก (Botox) อเมริกาที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5%
- โบท็อก (Botox) อเมริกาจะออกฤทธิ์อยู่ได้นานกว่า ตึงกว่าของเกาหลีประมาณ 20%
- โบท็อก (Botox) เกาหลี Nabota จะออกฤทธิ์ค่อนข้างไวใกล้เคียงกับโบท็อกอเมริกา แต่ก็สามารถรักษาผลลัพธ์ได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
โบท็อก (Botox) เกาหลีกับอเมริกาตัวไหนดีกว่ากัน
- โบท็อก (Botox) อเมริกา โดยเฉพาะของ Allergan Botox ราคาสูงกว่าโบท็อก (Botox) เกาหลี เนื่องจากแบรนด์และการวิจัยพัฒนาที่ล้ำหน้ากว่า
โบท็อก (Botox) เกาหลีกับอเมริการาคาต่างกันไหม
ราคาโบท็อก (Botox) เกาหลี กับ อเมริกา ต่างกันอย่างไร โดยทั่วไป โบท็อก (Botox) อเมริการาคาจะสูงกว่า ดังนั้น หากไม่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ หมอแนะนำโบท็อก (Botox) อเมริกาจะดีที่สุดค่ะ อยู่ได้นานและโอกาสที่จะเกิดการดื้อยาได้น้อย แต่ทั้งนี้หากต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายลงมาก็สามารถฉีดโบท็อก (Botox) ของเกาหลีได้ค่ะ เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ดีและราคาสมเหตุสมผลค่ะ
เหตุผลที่โบท็อก (Botox) อเมริการาคาสูงกว่า:
- ค่าวิจัยและการพัฒนา: โบท็อก (Botox) แท้ของ Allergan จากอเมริกา มีการวิจัยและพัฒนาอย่างเข้มข้น มั่นใจได้ในคุณภาพ ผลลัพธ์ และความปลอดภัย
- ต้นทุนผลิต: แม้มีโรงงานผลิต Allergan ในเกาหลี แต่ต้นทุนอื่นๆ อย่างเทคโนโลยี การควบคุมคุณภาพ บุคลากร อาจสูงกว่า
- แบรนด์: Allergan เป็นแบรนด์ชั้นนำ ที่มีมูลค่าทางการตลาดสูง ส่งผลต่อราคาที่สูงกว่า
- ภาษีและค่าขนส่ง:โบท็อก (Botox) อเมริกาต้องนำเข้ามา ทำให้มีค่าภาษีและค่าขนส่งเพิ่มเติม
โบท็อก (Botox) เกาหลีกับอเมริกาตัวไหนดีกว่ากัน
หมอแนะนำเลือกโบท็อก (Botox) ที่ผ่าน อย. ไม่ว่าผลิตจากไหน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และฉีดในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยค่ะ
โดยประมาณ ราคาโบท็อก (Botox) อเมริกา (Allergan Botox) เริ่มต้นที่ 500-1,000 บาท ต่อยูนิต ส่วนโบท็อก (Botox) เกาหลี บางยี่ห้ออาจเริ่มต้นที่ 200-300 บาท ต่อยูนิต
ฉีดโบท็อก (Botox) เกาหลีหรืออเมริกา ดีกว่ากัน
ดังนั้นถ้าให้เปรียบเทียบว่าโบท็อก (Botox) สัญชาติไหนดีที่สุด โดยไม่มีเรื่องของราคามาเกี่ยวข้อง ก็ต้องขอสรุปว่าโบท็อก (Botox) ของฝั่งอเมริกาถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดค่ะ เพราะมีความปลอดภัยบริสุทธิ์กว่าและทำให้ใบหน้าเรียวสวยได้ยาวนานกว่า
หมอขอสรุปคำแนะนำในการเลือกโบท็อก (Botox) ดังนี้ค่ะ
- เลือกโบท็อก (Botox) ที่ผ่าน อย. ไม่ว่าผลิตจากไหน
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- อย่าหลงเพียงราคา ถูก
- ฉีดในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน
การเลือกคลินิกฉีดโบท็อก (Botox) ควรพิจารณาปัจจัยหลายประการ เช่น ชื่อเสียงของคลินิก คุณภาพของโบท็อก (Botox) ประสบการณ์ของแพทย์ และความปลอดภัยของสถานที่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ลินนาคลินิก (LINNA CLINIC) เป็นคลินิกความงามที่มีชื่อเสียง ให้บริการการฉีดโบท็อก (Botox) ด้วยโบท็อก (Botox) แท้ที่ผ่าน อย. มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเวชศาสตร์ความงาม เทคโนโลยีการฉีดโบท็อก (Botox) ที่ทันสมัย มีโปรโมชั่นและส่วนลดมากมาย จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่สนใจฉีดโบท็อก (Botox) ค่ะ