อยากฉีดโบท็อก (Botox) แต่กลัวเข็ม กลัวเจ็บ ทำอย่างไรดี

ก่อนทำหัตถการทุกครั้ง หมอจะทำการแปะยาชาหรือใช้น้ำแข็งช่วยประคบเย็นก่อนทำการฉีดทุกครั้ง รวมถึงเข็มที่ลินนาคลินิกเลือกใช้จะมีขนาดที่เล็กเป็นพิเศษ จึงทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเท่ากับเข็มที่มีขนาดทั่วไปค่ะ หากใครที่มีความกลัวเข็มมากเป็นพิเศษก็สามารถขอทำการแปะยาชาก่อนได้เช่นกันโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม  และเราเองมีการใช้ตัว Face Vibration เพื่อช่วยในการเบนความสนใจได้ด้วยเช่นกัน และยังมีตัวช่วยอื่นๆที่หมอสรุปไว้ให้ด้านล่างนี้ด้วยเช่นกันค่ะ นอกจากนั้นทางหากท่านใดมีความกังวลหรือไม่สบายใจตรงจุดไหนสามารถเข้ามาพูดคุยสอบถามรายละเอียดขั้นตอนการรักษากับหมอได้ที่ลินนาคลินิก (LINNA Clinic) ก่อนได้เลยนะคะ 

Table of Contents

คนกลัวเข็มจัดการกับการกลัวอย่างไรดี

การแก้ไขอาการกลัวเหล่านี้สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยเริ่มที่ตัวเราเองได้เลยค่ะ มีวิธีการดังนี้

  • ปรับทัศนคติของตัวเองใหม่

การจัดลำดับความคิดของตัวเองให้ได้เป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกเลยค่ะ ก่อนอื่นให้ปรับทัศนคติที่มีต่อสิ่งที่ตัวเองกลัว ยกตัวอย่าง เช่น การกลัวเข็ม โดยให้คิดว่าการเผชิญหน้าอย่างค่อยเป็นค่อยไปสามารถทำได้โดยค่อย ๆ เอาตัวเองไปอยู่กับสิ่งๆนั้นให้มากขึ้นไม่ต้องทำในทันทีทันใดนะคะ ให้ค่อย ๆ ทำ เช่น ไปอยู่กับเพื่อนที่ทำมาแล้วสวยเราก็จะเริ่มซึมซับและปรับทัศนคติให้กลัวน้อยลงและมีความกล้ามากขึ้นที่จะทำค่ะ

  • ตั้งสมาธิและผ่อนคลาย

คนที่ไม่กล้า ผ่า ฉีดยา การตั้งสมาธิช่วยทำให้เราใจเย็นลงได้ แต่มันทำได้มากกว่านั้นค่ะ โดยการตั้งสมาธิกำหนดลมหายใจ เข้า-ออกจะช่วยให้จิตใจของเรานิ่งมากขึ้นค่ะ โดยคนเป็นโรคนี้ถ้าหากฝึกไปเรื่อย ๆ ยิ่งฝึกมากเท่าไหร่ก็จะสามารถ ควบคุมสติและควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้มากขึ้นค่ะ

  • การเบี่ยงเบนความสนใจ

หากกลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้ให้พยายามคิดถึงสิ่งอื่นแทนค่ะโดยก่อนทำอาจจะแจ้งหมอของเราว่าให้ช่วยพูดเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ในขณะที่ฉีดยาชา สมองจะได้คิดไปเรื่องอื่นไม่มาโฟกัสเรื่องนี้หรือขณะที่ทำให้ตัวเองหันหน้าไปมองทางอื่นเพื่อจะได้ไม่มองเห็นซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลมากเลยค่ะ

  • ใช้ตัวยา Penthrox ช่วย
    ในบางกรณีที่คนไข้มีความกลัวเข็ม กลัวเจ็บมากจริงๆ แต่ต้องการผลลัพธ์จากโบท็อกหมอมีตัวช่วยที่เป็นทางเลือกอีก 1 ทาง คือการพ่นยาที่ชื่อว่า Penthrox ได้ เป็นยาที่ช่วยลดความเจ็บปวดได้ โดยผ่านการสูดดม ลงที่ปอดและกระจายเข้าสู่กระแสเลือด ตัวยาช่วยให้รู้สึกผ่อยคลาย และความวิตกกังวลได้ค่ะ ทั้งนี้หมอจะต้องขอดูเป็นเคสๆไปค่ะ
  • ใช้เครื่องแทนเข็ม

เราสามารถเปลี่ยนเป็นการทำหัตถการอื่นนอกเหนือจากโบท้อกที่ให้ผลใกล้เคียงกันได้ เช่น การใช้เครื่องยกกระชับ เช่น HIFU เป็นต้น จะเป็นการกระตุ้นคอลลาเจน เพื่อลดรอยต่างๆบนใบหน้าได้ และช่วยยกกระชับให้หน้าเข้ารูป ผิวเฟิร์มขึ้นค่ะ

การเตรียมตัวและเทคนิคการผ่อนคลายก่อนการฉีดโบท็อก

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรนอนดึก เตรียมความพร้อมของร่างกาย และใบหน้าให้พร้อมก่อนไปฉีดโบท็อก
  2. งดทานวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก หรือทำให้ร่างกายร้อนเป็นเวลาอย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย คอลลาเจน เป็นต้น
  3. งดการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDs เป็นเวลาอย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ เช่น Ibruprofen, Naproxen หรือ Motrin
  4. งดการดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มมึนเมาเป็นเวลา 48 ชั่วโมงก่อนการฉีดโบท็อก
  5. ควรปรึกษาคุณหมอ เกี่ยวกับความกลัวและแจ้งปัญหาที่ต้องการแก้ไขด้วย Botox อย่างชัดเจน เพื่อการรักษาที่ตรงจุดและให้ผลลัพธ์ตรงใจ

ทางเลือกหัตถการอื่นสำหรับคนที่กลัวเข็ม

การเลือกหัตถการความงามควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพผิว สภาพร่างกาย งบประมาณ และความต้องการของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ 

โบท็อก (Botox) เป็นหัตการพื้นฐานในการลดริ้วรอย ลดขนาดกราม ยกกระชับ ที่หมอแนะนำ เพราะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน เห็นผลไว และราคาไม่สูง รวมถึงสามารถชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้อย่างดี มีความปลอดภัยและมีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับ สามารถสลายได้เองโดยไม่มีสารตกค้าง ไม่อันตรายต่อร่างกาย หากใครที่ต้องการฉีด ควรฉีดโบท็อก (Botox) กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เข้าใจในโครงสร้างของใบหน้าเป็นอย่างดี คำนวณปริมาณยา รู้ตำแหน่งที่ฉีด แนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมให้ในแต่ละเคส ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยยิ่งขึ้นค่ะ

วิธีการเลือกคลินิกสำหรับคนเป็นโรคกลัวเข็ม

  • คลินิกมีมาตรฐาน

แพทย์มีใบอนุญาตประกอบการจากกระทรวงสาธารณสุขจะช่วยคัดกรองความน่าเชื่อถือให้กับคลินิกเสริมความงามว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนแพทย์ผู้ให้การรักษาต้องผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น แพทยสภา ซึ่งเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคลินิกและผู้เข้ารับบริการก็จะมั่นใจในความปลอดภัยว่า ได้รับการบริการหรือรักษาจาก แพทย์ผู้ชำนาญการ และหลายคนมักเลือกคลินิกเสริมความงามจาก “ราคา” เป็นหลัก ยิ่งถูกก็ยิ่งดึงดูดมากเป็นเท่าตัว แต่ความเป็นจริงแล้วราคาที่ถูกเกินไปยิ่งมีความเสี่ยงสูงว่าอาจจะได้รับบริการที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่มีคุณภาพ เพราะอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ ไปจนถึงยาต่างๆ ล้วนมีต้นทุนค่อนข้างสูง การที่มีราคาถูกเกินไปก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นของปลอม ยาหมดอายุ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตของคนไข้หรือผู้ใช้บริการในระยะยาวค่ะ

  • เลือกคุณหมอที่มีประสบการณ์

เลือกคลินิกที่มีคุณหมอและทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์และเข้าใจถึงปัญหาและที่สำคัญใส่ใจในรายละเอียดของคนไข้จริง ๆ อย่างเช่นเราแจ้งหมอให้ชัวร์ไปเลยค่ะ ว่าเรากลัวการ ผ่าตัด คุณหมอจะได้วางแผนได้ถูกว่าจะมีวิธีไหนทำให้เราคลายความกลัวได้บ้างค่ะ

  • เลือกคลินิกที่รีวิวแน่น

ต้องมองหาคลินิกรีวิวจากคนไข้จริงค่ะ เราจะได้คลายความกลัวได้มากขึ้นเพราะการหารีวิว เพราะเป็นการการันตีว่าคลินิกที่เราเลือกนั้นได้รับการไว้วางใจจากคนไข้หลายคนนั่นเองค่ะ

ปัจจุบันนี้ด้วยผลลัพธ์และราคาของโบท็อกที่ดึงดูดหลายๆคน หมออยากให้ทุกท่านคำนึงถึงหลากหลายปัจจัยเพื่อประกอบการตัดสินใจไม่ว่าจะเป็นตัวยาที่ได้มาตรฐาน อย. คลินิกที่เข้าทำการรักษา รวมถึงแพทย์ผู้ทำการรักษา เพื่อผลลัพธ์ที่ดีมีประสิทธิภาพต่อตัวคนไข้เอง และลดความเสี่ยงที่จะเกิดโอกาสการดื้อยาในอนาคตค่ะ

ลินนาคลินิก (LINNA CLINIC) เป็นคลินิกความงามและบริการ ด้านผิวหนังที่ผ่านมาตรฐานและได้รับการยอมรับจากกระทรวงสาธารณสุข กับแพทย์มากประสบการณ์แถมได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการมากมาย อีกทั้งมีอุปกรณ์ที่ทันสมัย ครบครัน สะอาด ปลอดภัย และการบริการใส่ใจรายละเอียดคนไข้ทั้งก่อนและหลังทำอย่างเป็นดี   หากคนไข้กลัวหรือกัววลพนักงานของเรามีวิธีการให้กำลังใจ และเทคนิคช่วยเบี่ยงเบนความสนใจให้คนไข้ตื่นเต้นน้อยลงค่ะ นอกจากคลินิกมาตรฐานดีบริการดีแล้วคุณหมอยังเข้าใจความรู้สึกคนไข้และมีประสบการณ์มายาวนาน และที่สำคัญมือเบา และมีเทคนิคพิเศษทำให้บวมช้ำน้อย แผลหายไว ในทุกหัตถการ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ลินนาคลินิก (LINNA CLINIC) เบอร์ 063-609-8888 หรือทางไลน์ @linnaclinic ค่ะ

Related Articles

Ultraformer คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ช่วยยกกระชับได้นานถึง 1 ปี จริงไหม

อยากมีผิวสวยกระชับ ดูเต่งตึง ไม่มีริ้วรอยร่องลึกและความเหี่ยวย่นต่างๆ คอยกวนใจแต่ไม่อยากผ่าตัดยกกระชับ ไม่อยากฉีดสารสังเคราะห์ทั้งพวกโบท็อกซ์ (Botox) หรือฟิลเลอร์ (Filler) เข้าสู่ร่างกายทำได้หรือไม่? โจทย์งานผิวจะยากเพียงใดแต่นวัตกรรมยกกระชับผิวอย่าง Ultraformer ก็เอาอยู่ด้วยสุดยอดเทคโนโลยีเพื่อผิวยกกระชับ ลดริ้วรอยและกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ๆ ใต้ชั้นผิวได้อย่างดีเยี่ยมโดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ภายในครั้งแรกที่ทำ สำหรับใครที่ต้องการยกกระชับผิวให้สวยหล่อดูมั่นใจมากขึ้นและกำลังมีแพลนทำ Ultraformer แต่ยังไม่มั่นใจว่า Ultraformer ดีจริงไหม ราคาเท่าไหร่ หลังทำ Ultraformer ช่วยคงผลลัพธ์ผิวยกกระชับได้นานถึง 1 ปี จริงไหม? มาดูทุกคำตอบไปพร้อมๆ กันได้ในบทความนี้จาก Linna Clinic (ลินนา คลินิก) Table of Contents Ultraformer คืออะไร? Ultraformer (อัลตราฟอร์เมอร์) คือ เทคโนโลยีเพื่อการยกกระชับผิวหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้ทรงวีเชฟ (V-shape) โดยไม่ต้องผ่าตัดด้วยการยิงคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงและมีความเฉพาะเจาะจงแบบ MMFU (Micro & Macro Focus Ultrasound) เข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนังและสามารถลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อส่วนบนหรือผิวชั้น SMAS (Superficial Muscular

เทรนด์การฉีดโบท็อก แบบไหนที่นิยมในหมู่ Celeb

ดารา Hollywood เริ่มฉีด เบบี้โบท็อก (Baby Botox) จนเป็นเทรนด์ฮอตฮิตอยู่ตอนนี้ ดาราสาวหลายคนกล่าวว่า รู้สึกว่าการฉีดเทคนิคเบบี้โบท็อก (Baby Botox) เป็นวิธีที่ทำให้มีความอ่อนเยาว์หน้าดูเด็กที่สุดทำให้ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ Table of Contents เบบี้โบท็อก (Baby Botox) คืออะไร เบบี้โบท็อก (Baby Botox) คือ เทคนิคการฉีดโบท็อก (Botox) แบบใหม่ล่าสุดที่ฮิตมากในหมู่เซเลปคนดังฮอลลีวูดถือเป็นเทคนิคการฉีดโบท็อก (Botox) เพื่อเน้นลดริ้วรอย เช่น รอยย่นบนบริเวณหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว และรอยตีนกา แต่ใบหน้ายังเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ การฉีดโบท็อก (Botox) ในบริเวณรอยลึก สำหรับการฉีดโบท็อก (Botox) ลดริ้วรอยจะเห็นผลชัดเจนในการแก้ปัญหาริ้วรอยตื้นๆ หรือริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น การขมวดคิ้ว การเลิกคิ้ว ริ้วรอยตีนกา การยิ้ม ริ้วรอยร่องแก้ม เป็นต้น แต่ถ้าหากเป็นปัญหาริ้วรอยร่องลึกที่เกิดจากปัญหากระดูกทรุดตัว อาจจะต้องแก้ไขโดยการฉีดฟิลเลอร์หนุนในชั้นผิว เพราะสารเติมเต็มในฟิลเลอร์สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกได้มากกว่าการฉีดโบท็อก (Botox) ลดริ้วรอยค่ะ 3 เทคนิคฉีดโบท็อก (Botox)

มีโรคประจำตัวอยู่ ฉีดโบท็อก (Botox) ได้ไหม

ก่อนอื่นหมอแนะนำผู้ที่จะเข้ามาทำการฉีดโบท็อก (Botox)  มาเช็คความพร้อมของสุขภาพกันเสียก่อน โดยจะต้องไม่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ และให้นมบุตรส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น คนที่มีโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ กล้ามเนื้ออ่อนแรง คนที่มีปัญหากล้ามเนื้อในการกลืน ควรหลีกเลี่ยง เพื่อความปลอดภัย และก่อนฉีดโบท็อก ไม่ควรปกปิดโรคประจำตัวกับแพทย์ผู้ให้การรักษาค่ะ Table of Contents ข้อควรพิจารณาก่อนการฉีดโบท็อก (Botox) สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เพื่อความปลอดภัย  ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก (Botox)  แพทย์จะทำการประเมินความเสี่ยงและความเหมาะสมของคุณโดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของโรคประจำตัว: บางโรคอาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือระบบประสาท ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงจากการฉีดโบท็อก (Botox) ได้ ยาที่รับประทานอยู่: ซึ่งยาบางชนิดอาจมีปฏิกิริยาต่อกันกับโบท็อก (Botox) ประวัติการแพ้ยา: หากคุณเคยแพ้ยาใดๆ หรือมีประวัติการแพ้ทุกชนิดควรแจ้งแพทย์ให้ทราบทุกครั้งก่อนทำการฉีดโบท็อก (Botox) หมอแนะนำห้ามฉีดโบท็อก (Botox) เองโดยเด็ดขาดเนื่องจากโบท็อก (Botox) เป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูงหากใช้ไม่ถูกต้อง การฉีดผิดจุด หรือฉีดในปริมาณที่มากจนเกินไปอาจส่งผลเสียร้ายแรงได้ เช่น ใบหน้าเบี้ยว ตาตก ปากตกเป็นต้น ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเสมอเพื่อความปลอดภัยค่ะ โรคประจำตัวใดห้ามฉีดโบท็อก (Botox) ผู้ป่วยโรคระบบกล้ามเนื้อ เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอแอลเอส

Scroll to Top