- ทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดและแห้ง
- ทาเจลหล่อลื่นบนใบหน้าบริเวณที่ต้องการทำ HIFU
- เลือกหัวยิงให้เหมาะกับบริเวณที่ต้องการทำ HIFU
- วางหัวยิงบนใบหน้าและกดปุ่มเพื่อเริ่มทำ HIFU
- เคลื่อนหัวยิงไปตามบริเวณที่ต้องการทำ HIFU โดยกดปุ่มยิงแต่ละจุดค้างไว้จนกว่าเสียงติ๊ดจะดังขึ้น
- ทำซ้ำขั้นตอน 5-6 กับบริเวณอื่น ๆ ที่ต้องการทำ HIFU
ระยะเวลาในการทำ HIFU ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและระดับความลึกที่ต้องการยิง โดยปกติจะใช้เวลาแปะยาชาทิ้งไว้ 30 นาที และใช้เวลาทำอีกประมาณ 30-60 นาที หากทำไฮฟู่ที่ ลินนาคลินิก (LINNA CLINIC) ทั่วทั้งใบหน้าระยะเวลาอยู่ที่ 15 นาทีโดยที่ไม่ต้องแปะยาชา
หลังทำ HIFU อาจจะมีอาการบวมแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน ผลลัพธ์ของการยกกระชับใบหน้าจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นภายใน 1-3 เดือน และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
Table of Contents
ข้อควรระวังในการทำ HIFU
- ห้ามทำ HIFU ในบริเวณที่มีแผลเปิดหรืออักเสบ
- ห้ามทำ HIFU ในบริเวณที่มีโลหะฝังอยู่
- ห้ามทำ HIFU ด้วยตัวเอง ควรทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้เครื่อง HIFU ในการยกกระชับใบหน้า ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
การใช้เครื่อง HIFU ในการลดริ้วรอยใบหน้า มีประโยชน์ดังนี้
- ช่วยลดริ้วรอย คลื่นเสียงความเข้มข้นสูงจากเครื่อง HIFU จะถูกส่งผ่านไปยังชั้นผิวหนังลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการยกกระชับใบหน้า ความร้อนจากคลื่นเสียงจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยตื้นๆ ลดลง และริ้วรอยลึกๆ จางลง
- ช่วยยกกระชับใบหน้า คลื่นเสียงความเข้มข้นสูงจากเครื่อง HIFU จะช่วยกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น ส่งผลให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น กรอบหน้าชัดขึ้น และเหนียงลดลง
- เห็นผลได้ทันที หลังทำ HIFU จะเห็นผลลัพธ์ได้ทันที โดยผิวจะรู้สึกกระชับขึ้นเล็กน้อย ส่วนผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นจะปรากฏให้เห็นภายใน 1-3 เดือน และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
นอกจากนี้ การทำ HIFU ยังมีข้อดีอื่นๆ ดังนี้
- ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำ HIFU ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ปลอดภัย การทำ HIFU เป็นหัตถการที่ไม่ใช้มีดผ่าตัด ไม่มีแผลเปิด จึงมีความปลอดภัยสูง
- เหมาะกับทุกสภาพผิว การทำ HIFU เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้แต่ผู้ที่มีผิวบอบบางก็สามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม การทำ HIFU มีข้อควรระวังบางประการ ดังนี้
- ควรเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน เพื่อให้ได้ความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ เพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหรือกระทบกระเทือนใบหน้า หลังทำ HIFU อย่างน้อย 1 สัปดาห์
เทคโนโลยี HIFU และการกระชับผิวหน้า
เทคโนโลยี HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวหน้าโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะจุด (Focused Ultrasound) ไปยังเนื้อเยื่อชั้น Superficial Muscular Aponeurotic System หรือ SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่แพทย์ศัลยกรรมใช้ในการผ่าตัดดึงใบหน้า
การทำงานของเทคโนโลยี HIFU คือ การส่งพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังเนื้อเยื่อชั้น SMAS ทำให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นและความกระชับให้กับผิว เมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินหดตัว ผิวจึงเกิดการยกกระชับขึ้น
นอกจากนี้ เทคโนโลยี HIFU ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่อีกด้วย ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับขึ้นอย่างยั่งยืน
ผลลัพธ์ของการยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยี HIFU จะเห็นผลได้ชัดเจนภายใน 1-3 เดือน และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
เทคโนโลยี HIFU เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวเหี่ยวย่น ผิวมีริ้วรอย และผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ผ่าตัด
เทคโนโลยี HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวหน้าโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะจุด (Focused Ultrasound) ไปยังเนื้อเยื่อชั้น Superficial Muscular Aponeurotic System หรือ SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่แพทย์ศัลยกรรมใช้ในการผ่าตัดดึงใบหน้า
การทำงานของเทคโนโลยี HIFU คือ การส่งพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังเนื้อเยื่อชั้น SMAS ทำให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นและความกระชับให้กับผิว เมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินหดตัว ผิวจึงเกิดการยกกระชับขึ้น
นอกจากนี้ เทคโนโลยี HIFU ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่อีกด้วย ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับขึ้นอย่างยั่งยืน
ผลลัพธ์ของการยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยี HIFU จะเห็นผลได้ชัดเจนภายใน 1-3 เดือน และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
เทคโนโลยี HIFU เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวเหี่ยวย่น ผิวมีริ้วรอย และผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ผ่าตัด
ข้อดีของเทคโนโลยี HIFU
- เป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
- ไม่ทำให้เกิดแผล ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น
- สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย
ข้อเสียของเทคโนโลยี HIFU
- ราคาค่อนข้างสูง
- อาจมีอาการบวมแดงเล็กน้อยหลังทำ
- ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
ก่อนตัดสินใจทำเทคโนโลยี HIFU ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
ความปลอดภัยของการใช้ HIFU machines ในการยกกระชับใบหน้า
โดยทั่วไปแล้ว HIFU machines ถือว่ามีความปลอดภัยสูงในการยกกระชับใบหน้า เนื่องจากใช้คลื่นอัลตราซาวนด์แบบโฟกัส (focused ultrasound) ในการส่งพลังงานความร้อนไปยังชั้น SMAS (superficial musculoaponeurotic system) ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่อยู่ใต้ผิวหนังชั้นนอก โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผิวหนังชั้นนอกหรืออวัยวะภายใน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำ HIFU machines นั้นมักไม่รุนแรงและหายได้เองภายในไม่กี่วัน โดยอาจมีอาการดังต่อไปนี้
- อาการแดงหรือบวมบริเวณที่ทำ
- รู้สึกเจ็บหรือแสบร้อนเล็กน้อย
- ผิวแห้งหรือลอกเป็นขุย
- อาจเกิดอาการชาได้ในบางจุด
ผลข้างเคียงที่รุนแรงกว่า เช่น รอยไหม้ รอยแผลเป็น หรือความเสียหายต่อดวงตานั้นพบได้น้อยมาก โดยอาจเกิดขึ้นได้หากเครื่อง HIFU machines ไม่ได้ถูกใช้งานอย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือควรเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ให้บริการ HIFU machines ที่ได้มาตรฐาน โดยแพทย์หรือผู้ทำการรักษาควรมีประสบการณ์และได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ก่อนทำ HIFU machines ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้ทำการรักษาเกี่ยวกับข้อห้ามและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงแจ้งประวัติทางการแพทย์ทั้งหมด เพื่อให้แพทย์สามารถประเมินความเสี่ยงและวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
ข้อห้ามในการทำ HIFU machines ได้แก่
- ผู้มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง โรคติดเชื้อในบริเวณที่จะทำ HIFU
- ผู้ที่เพิ่งรับการผ่าตัดบริเวณที่จะทำ HIFU ไม่เกิน 6 เดือน
HIFU machines เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าแบบไม่ผ่าตัด เนื่องจากเป็นการรักษาที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และใช้เวลาไม่นาน สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติได้ทันทีหลังการรักษา
ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการใช้ HIFU machines ในการกระชับใบหน้า ได้แก่
- ยกกระชับผิวบริเวณแก้ม ร่องแก้ม ใต้ตา หางตา หน้าผาก กรอบหน้า เหนียง
- ลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ร่องแก้ม และใต้ตา
- ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง
- กระชับรูขุมขน
- ผิวเรียบเนียนขึ้น แลดูใสขึ้น
ผลลัพธ์เหล่านี้จะปรากฏให้เห็นชัดเจนภายใน 1-3 สัปดาห์หลังการรักษา และสามารถคงอยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน โดยผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลและจำนวนครั้งที่ทำการรักษา
HIFU machines เป็นเทคโนโลยีที่อาศัยคลื่นเสียงความถี่สูง (ultrasound) ในการส่งพลังงานความร้อนไปยังชั้นผิวหนังชั้นลึก (dermis) และชั้นไขมัน (subcutaneous fat) พลังงานความร้อนจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลง และรูปหน้าเรียวเล็กลง
HIFU machines เป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แต่อาจมีผลข้างเคียงบางประการ เช่น อาการบวมแดง ปวด และรอยช้ำ ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 วันหลังการรักษา
ผู้ที่เหมาะกับการรักษาด้วย HIFU machines ได้แก่
- ผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ร่องแก้ม และใต้ตา
- ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยบริเวณแก้ม คาง และคิ้ว
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง
- ผู้ที่ต้องการกระชับรูขุมขน
เครื่อง HIFU ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาด
เครื่อง HIFU ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดในปัจจุบัน ได้แก่
- Ulthera SPT เป็นเครื่อง HIFU จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป เป็นเครื่อง HIFU ที่ใช้เทคโนโลยี Micro-Focused Ultrasound (MFU) ส่งพลังงานอัลตราซาวนด์แบบจุดเล็กลงสู่ชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำ ช่วยยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Ultraformer III เป็นเครื่อง HIFU จากประเทศเกาหลี ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปเช่นกัน เป็นเครื่อง HIFU ที่ใช้เทคโนโลยี Micro & Macro Focused Ultrasound (MMFU) ส่งพลังงานอัลตราซาวนด์แบบจุดเล็กและจุดใหญ่ลงสู่ชั้น SMAS และชั้นหนังแท้ (dermis) ได้อย่างแม่นยำ ช่วยยกกระชับผิวและลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เครื่อง UltraV HIFU Plus ทำงานโดยปล่อยคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงไปยังชั้นผิวหนังลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่อยู่ใต้ผิวหนังชั้นหนังแท้ พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์จะทำให้เกิดความร้อนในชั้น SMAS ส่งผลให้เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินหดตัว ส่งผลให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยลดลง และไขมันส่วนเกินลดลง
ทั้งสามเครื่องนี้ต่างเป็นที่นิยมในหมู่แพทย์ผิวหนังและคลินิกความงาม เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวและลดริ้วรอยอย่างเห็นผล อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูง ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่สำคัญ
นอกจากนี้ ยังมีเครื่อง HIFU ยี่ห้ออื่นๆ ที่ได้รับการยอมรับและได้รับความนิยมในตลาดเป็นต้น ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นและข้อดีแตกต่างกันไป การเลือกเครื่อง HIFU จึงควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- ประสิทธิภาพ ของเครื่อง HIFU ควรสามารถส่งพลังงานอัลตราซาวนด์ลงสู่ชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ
- ความปลอดภัย ของเครื่อง HIFU ควรได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของประเทศต่างๆ
- ราคา ของเครื่อง HIFU ควรเหมาะสมกับงบประมาณ
คำแนะนำในการเลือกใช้ HIFU machines สำหรับการยกกระชับใบหน้า
HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยียกกระชับใบหน้าแบบไม่ผ่าตัด โดยใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงส่งผ่านไปยังชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อหุ้มใบหน้าที่อยู่ลึกกว่าชั้นผิวชั้นนอก ความร้อนจากคลื่นอัลตราซาวนด์จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวกระชับเต่งตึงขึ้น
ในการเลือกใช้ HIFU machines สำหรับการยกกระชับใบหน้า ควรพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้
- ยี่ห้อและรุ่นของเครื่อง ควรเลือกเครื่องที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น FDA, CE, KFDA เป็นต้น
- ประเภทของหัวยิง หัวยิง HIFU แต่ละประเภทจะออกแบบมาสำหรับยิงไปยังชั้นผิวที่แตกต่างกัน เช่น หัวยิงแบบ 3D จะใช้ยิงไปยังชั้น SMAS ในขณะที่หัวยิงแบบ 4D จะใช้ยิงไปยังทั้งชั้น SMAS และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
- พลังงานของคลื่นอัลตราซาวนด์ พลังงานของคลื่นอัลตราซาวนด์จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการยกกระชับใบหน้า โดยพลังงานที่สูงขึ้นจะทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนขึ้น แต่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้มากกว่า เช่น อาการบวมแดง ไหม้ หรือรอยแผลเป็น
- ประสบการณ์ของแพทย์ แพทย์ผู้ทำ HIFU ควรมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่อง HIFU เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
นอกจากนี้ ควรพิจารณาจากปัญหาและความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล เช่น
- หากต้องการยกกระชับใบหน้าบริเวณใดเป็นพิเศษ ควรเลือกเครื่องที่มีหัวยิงแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับบริเวณนั้น เช่น หัวยิงสำหรับยกกระชับกรอบหน้า หัวยิงสำหรับยกกระชับคิ้ว
- หากมีผิวบอบบาง ควรเลือกเครื่องที่มีพลังงานของคลื่นอัลตราซาวนด์ต่ำ
- หากต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรทำ HIFU ซ้ำทุก 6 เดือน – 1 ปี
ตัวอย่าง HIFU machines ยี่ห้อดังที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ได้แก่
- Ultherapy
- Ultraformer III
- Ultra V
ข้อจำกัดของเครื่อง HIFU ในการใช้ในการยกกระชับใบหน้า เครื่อง HIFU เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการยกกระชับใบหน้าด้วยการปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูง (High-intensity focused ultrasound) เข้าไปทำลายคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้คอลลาเจนเกิดการหดตัวและเกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาทดแทน ส่งผลให้ผิวเกิดการยกกระชับ เรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์ลง
อย่างไรก็ตาม เครื่อง HIFU มีข้อจำกัดบางประการในการใช้ในการยกกระชับใบหน้า ดังนี้
- พลังงานไม่เพียงพอ หากพลังงานของเครื่อง HIFU ไม่เพียงพอที่จะลงไปทำลายคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะไม่ชัดเจนหรืออาจไม่เห็นผลเลย
- แพทย์ผู้ทำหัตถการไม่มีความชำนาญ หากแพทย์ผู้ทำหัตถการไม่มีความชำนาญในการใช้เครื่อง HIFU พลังงานอาจกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เท่ากันหรืออาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวไหม้ รอยช้ำ เป็นต้น
- สภาพผิวไม่เหมาะสม เครื่อง HIFU เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง หากผิวหย่อนคล้อยมาก อาจต้องใช้เทคโนโลยีอื่นที่มีประสิทธิภาพมากกว่า เช่น การผ่าตัดศัลยกรรม
นอกจากนี้ เครื่อง HIFU ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณาก่อนทำหัตถการ ดังนี้
- ระยะเวลาการรักษา การทำ HIFU 1 ครั้ง ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ สำหรับที่ลินนาคลินิก จะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที
- ผลลัพธ์ ผลลัพธ์ของการทำ HIFU จะปรากฏให้เห็นภายใน 1-3 สัปดาห์ และยกกระชับ จะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ส่วนการลดริ้วรอยจะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
- ค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายในการทำ HIFU ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและเทคโนโลยีของเครื่อง HIFU
การดูแลรักษาหลังจากการใช้ HIFU machines
HIFU หรือ High-Intensity Focused Ultrasound เป็นเทคโนโลยีความงามที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) พลังงานสูง ยิงเข้าไปยังชั้นผิวที่ต้องการ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียน เต่งตึง รูขุมขนเล็กลง และลดริ้วรอย
หลังทำ HIFU อาจมีรอยแดงหรือบวมเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน ในระหว่างนี้ ควรดูแลรักษาผิวตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้มีประสิทธิภาพสูงสุด
การดูแลรักษาผิวหลังทำ HIFU
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัดหรือความร้อน ในช่วง 2-3 วันแรกหลังทำ ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัดหรือความร้อนโดยตรง เพราะอาจทำให้ผิวบริเวณที่ทำเกิดอาการระคายเคืองได้
- ทาครีมกันแดด ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เพื่อป้องกันผิวจากการถูกแสงแดดทำร้าย และช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ ควรดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
ข้อควรระวัง
- ไม่ควรทำไฮฟูหากมีรอยไหม้ รอยแผลเป็น หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เป็นต้นแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการทำไฮฟูหากมีโรคส่วนตัวใดๆ
- อาจมีอาการบวมแดงหรือระคายเคืองบริเวณที่ทำไฮฟูได้ อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1-2 วัน
- ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัดหรือความร้อนโดยตรงหลังทำไฮฟู
การใช้ HIFU machines ในการลดไขมันใต้ใบหน้า
การทำ HIFU machines ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (subcutaneous fat) อยู่ลึกกว่าชั้น SMAS ประมาณ 1-2 เซนติเมตร บริเวณชั้นไขมันจะใช้หัวที่ลงลึกถึงชั้นไขมัน ซึ่งสามารถส่งพลังงานความร้อนลงไปลึกถึงชั้นไขมันได้ ในการลดไขมันใต้ใบหน้าสามารถช่วยลดไขมันได้เล็กน้อย โดยผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันใต้ผิวหนังและสภาพผิวของคนไข้ โดยทั่วไปแล้ว หากคนไข้มีไขมันใต้ผิวหนังน้อย การใช้ HIFU machines จะสามารถช่วยลดไขมันได้มากกว่าคนไข้ที่มีไขมันใต้ผิวหนังมาก
ข้อดีของการใช้ HIFU machines ในการลดไขมันใต้ใบหน้านั้น ได้แก่
- เป็นวิธีที่ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น
- ผลลัพธ์เห็นชัดเจน
- ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
ข้อเสียของการใช้ HIFU machines ในการลดไขมันใต้ใบหน้านั้น ได้แก่
- อาจมีรอยแดงหรือบวมเล็กน้อยหลังทำ
- อาจต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ประสิทธิภาพของ HIFU machines เทียบกับวิธีการอื่นในการยกกระชับใบหน้า
HIFU machines หรือ High-Intensity Focused Ultrasound เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเข้มข้นสูงส่งไปยังชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อที่อยู่ใต้ผิวหนังชั้นหนังแท้ โดยคลื่นเสียงจะเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้น SMAS ทำให้เกิดความร้อนและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวเกิดการหดตัวและกระชับขึ้น
ประสิทธิภาพของ HIFU machines ในการยกกระชับใบหน้านั้นถือว่าอยู่ในระดับที่ดี โดยสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป ประมาณ 2-3 เดือน และสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลและการดูแลรักษาหลังทำ
เมื่อเทียบกับวิธีการยกกระชับใบหน้าแบบอื่น ๆ เช่น การร้อยไหม การดึงหน้า เป็นต้น HIFU machines มีข้อดีดังนี้
- มีประสิทธิภาพในการยกกระชับใกล้เคียงกับการดึงหน้า แต่ไม่ต้องผ่าตัด
- ใช้เวลาในการทำไม่นาน ประมาณ 15-20 นาที
- ผลข้างเคียงน้อย เพียงอาการบวมแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน
- มีความปลอดภัยสูง
อย่างไรก็ตาม HIFU machines มีข้อจำกัดดังนี้
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง
- ไม่สามารถยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยมากได้
- ผลลัพธ์อาจไม่คงทนเท่าการดึงหน้า
ความแตกต่างระหว่าง HIFU ทางคลินิกและทางบ้าน
HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีความงามที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียน และลดริ้วรอย HIFU สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
HIFU ทางคลินิก
HIFU ทางคลินิกเป็นการทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใช้เครื่อง HIFU ที่มีพลังงานสูง สามารถยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนและอยู่ได้นานกว่า HIFU ทางบ้าน
ข้อดีของ HIFU ทางคลินิก
- ห็นผลลัพธ์ชัดเจนกว่า
- อยู่ได้นานกว่า
- ปลอดภัย เพราะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแล
ข้อเสียของ HIFU ทางคลินิก
- ราคาสูงกว่า
- ใช้เวลาทำนานกว่า
- อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง เช่น บวมแดง ช้ำ
- HIFU ทางบ้าน
HIFU ที่บ้าน
HIFU ทางบ้านเป็นการใช้เครื่อง HIFU ขนาดเล็ก ที่สามารถซื้อมาใช้เองได้ที่บ้าน พลังงานจะน้อยกว่า HIFU ทางคลินิก แต่ก็สามารถช่วยให้ผิวกระชับขึ้นได้บ้าง
HIFU สำหรับทำเองที่บ้านเป็นอุปกรณ์ความงามที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ช่วยให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยลดลง และใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
HIFU สำหรับทำเองที่บ้านมีให้เลือกหลายรุ่น แต่ละรุ่นมีพลังงานและฟังก์ชันที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญคือต้องเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณ
มาตรฐานของ HIFU ที่บ้าน
- พลังงาน พลังงานของ HIFU ที่บ้านมีความสำคัญต่อผลลัพธ์การรักษา หากพลังงานไม่เพียงพอ จะไม่สามารถสร้างความร้อนได้เพียงพอที่จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ หากพลังงานมากเกินไป อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น รอยไหม้
- พลังงาน พลังงานของ HIFU ที่บ้านควรมีระดับพลังงานเพียงพอที่จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนังได้ โดยทั่วไปแล้ว พลังงานของ HIFU ที่บ้านควรอยู่ที่ประมาณ 20-40 J/cm2
- ฟังก์ชัน HIFU ที่บ้านควรมีฟังก์ชันที่หลากหลาย เช่น ปรับระดับพลังงานได้ ปรับโหมดการยิงได้ เป็นต้น
ข้อดีของ HIFU ที่บ้าน
- ราคาไม่แพง
- สะดวก สามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน
ข้อเสียของ HIFU ที่บ้าน
- เห็นผลลัพธ์น้อยกว่ามาก
- อยู่ได้ไม่นาน
- ต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงได้
ระยะเวลา
HIFU ทางคลินิกอาจใช้เวลาแปะยาชาทิ้งไว้ 30 นาที และใช้เวลาทำอีกประมาณ 30-60 นาที หากทำไฮฟู่ที่ ลินนาคลินิก (LINNA CLINIC) ทั่วทั้งใบหน้าระยะเวลาอยู่ที่ 15 นาทีโดยที่ไม่ต้องแปะยาชา
สรุปความแตกต่างระหว่าง HIFU ทางคลินิกและทางบ้าน
ปัจจัย | HIFU ทางคลินิก | HIFU ทางบ้าน |
พลังงาน | สูง | ต่ำ |
ความแม่นยำ | สูง | ต่ำ |
เห็นผลลัพธ์ | ชัดเจน | ไม่ชัดเจน |
อยู่ได้นาน | นาน | ไม่นาน |
ราคา | ปานกลาง – แพง | ถูก |
ความปลอดภัย | ปลอดภัยกว่า | เสี่ยงต่อผลข้างเคียง |
การทำ HIFU ที่คลินิกจะได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีความรู้และทักษะในการใช้เทคโนโลยี HIFU อย่างเป็นทางการ แพทย์สามารถปรับแต่งการใช้ HIFU ให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละบุคคล ซึ่งไม่สามารถทำได้เมื่อทำด้วยตนเองที่บ้าน และคลินิกมักมีบริการหลังการรักษาที่ดี ทำให้คุณมั่นใจในการดูแลตัวเองหลังจากการทำ HIFU