Home » บริการของเรา » ฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์ที่ LINNA
อะไรคือฟิลเลอร์ และ ฟิลเลอร์ช่วยอะไร
ฟิลเลอร์คือสารเติมเต็มด้วยสารไฮยาลูโรนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid ) หรือ เรียกว่า “HA” เพื่อช่วยเติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง
HA มีประสิทธิภาพในการช่วยกักเก็บน้ำให้แก่ชั้นใต้ชั้นผิว ฟิลเลอร์ ใช้สำหรับฉีดเพื่อเติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนังหรือใต้ผิวหนัง แก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกของผิวหนังหรือการปรับแต่งรูปหน้า นอกจากนั้นคุณหมอที่ลินนาคลินิกยังมีเทคนิคการยกกระชับใบหน้าด้วยฟิลเลอร์อีกด้วยค่ะ
หลายท่านอาจเคยได้ยินมาบ้างเรื่อง ฟิลเลอร์ชนิดโมเลกุลเล็ก อย่างเช่น Restylane Vital Light ยังสามารถนำมาใช้เป็น Skin Booster ตัวนี้คือนวัตกรรมใหม่ล่าสุดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นและลดเลือนริ้วรอยต่างๆ ทั้งรอยเหี่ยวย่น หรือ รอยแผลสิวให้กับผิวหน้า โดยผลิตภัณฑ์ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาทั้งประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา รวมถึงผ่านการรับรองจากกลุ่มประเทศในเครือสหภาพยุโรปด้วยกระบวนการของนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ Non Animal Stabilize Hyaluronic Acid หรือ NASHA ที่ทำให้ได้เจลไฮยาลูโรนิคแอซิดซึ่งสมบัติใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุดและมีความคงตัวจึงสามารถคงอยู่ใน ผิวให้ความชุ่มชื่นได้เป็นระยะเวลานาน พร้อมคุณสมบัติเด่นตรงที่แพทย์จะฉีดสกินบูสเตอร์ลงบนผิวหนังโดยตรงและโมเลกุลสกินบูสเตอร์จะถูกเก็บไว้ในผิวชั้นหนังแท้และปล่อยความชุ่มชื่นอย่างต่อเนื่องเปรียบเหมือนสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำไว้ใต้ผิวชั้นหนังแท้ที่จะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่นตลอดเวลาจากภายในนะคะ
- ช่วยในการแก้ไขปรับแต่งรูปหน้า เช่น เติมริมฝีปาก ร่องแก้ม แก้ม ขมับ หน้าผาก เป้นต้น
- แก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึก เช่น ริ้วรอยร่องแก้ม และริ้วรอยใต้ดวงตา รอยตีนกา
- เสริมจมูกและคาง โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดศัลยกรรม
ผลการรักษาจะคงอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน – 2 ปี ขึ้นอยู่กับขนาดโมเลกุลที่ใช้ สามารถเห็นผลการฉีดได้เลยทันที โดยไม่ต้องพักฟื้นค่ะ
9 คำถามที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ อันตรายไหม
ฟิลเลอร์เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันเพราะเห็นผลทันที ฟิลเลอร์มีให้เลือกใช้มากมายหลายยี่ห้อ หลายรุ่น สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง อย่างไรก็ดีถ้าใช้ฟิลเลอร์ “แท้” ซึ่งเป็นสาร HA (Hyaluronic acid) 100% และฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง ถูกชั้นผิว โดยแพทย์ที่มีความชำนาญ ก็จะมีความปลอดภัยสูง ส่วนมากที่อันตรายและไม่ปลอดภัยลคือการใช้ ซิลิโคนเหลว ฟิลเลอร์ปลอม อาจจะเกิดผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากการทำฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญพอ และฟิลเลอร์ไม่มีมาตรฐานค่ะ
ฟิลเลอร์ไหลไปยังส่วนอื่นของใบหน้าได้จริงหรือไม่
หากฉีดถูกชั้นผิวและเป็นฟิลเลอร์แท้ ไม่ไหลแน่นอนค่ะ แต่ส่วนมากที่เห็นไหลเเละมีปัญหามาจากการฉีดฟิลเลอร์ที่มีการอวดอ้างสรรพคุณ ว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดให้เป็นแบบกึ่งถาวร หรือสามารถอยู่ได้นานเกินกว่า 5 ปี เพราะเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายเองได้ กลุ่ใพวกนี้คือซิลิโคนเหลว หากอยู่ใต้ผิวหนังเป็นระยะเวลานานเกินไป อาจจะมีการเคลื่อนตำแหน่งไปยังจุดอื่นบนใบหน้าได้ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ สามารถศึกษา วิธีการสังเกตฟิลเลอร์ของแท้ยี่ห้อต่างๆ ที่สำคัญคือ ก่อนฉีดฟิลเลอร์สามารถให้หมอแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐานจะดีที่สุดนะคะ
การฉีด Filler ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล
โดยทั่วไปฟิลเลอร์จะเห็นผลชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ จะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของโมลิกุลที่ใช้ และบางคนอาจจะทำน้อยหรือมากกว่านี้ขึ้นกับอายุ การดูแลผิว และการดำเนินชีวิตค่ะ แนะนำให้ดื่มน้ำเยอะๆเพื่อให้อยู่ได้นานขึ้นค่ะ
หากเข้าใกล้กับความร้อนจะทำให้ ฟิลเลอร์ ละลาย จริงหรือไม่
ความร้อนมีผลต่อการสลายของฟิลเลอร์จริงค่ะ เช่น คนที่เคยฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากไปชอบทานของร้อนเป็นประจำ เช่น ชา กาแฟ หรือสูบบุหรี่ ก็จะมีส่วนทำให้ฟิลเลอร์บริเวณปากสลายไปได้เร็ว กว่าอายุของฟิลเลอร์จริงเป็นต้นค่ะ
ถ้าฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่ฉีดอีก จะทำให้หน้ายิ่งแย่หนักกว่าเดิม จริงหรือไม่
ไม่จริงเลยค่ะ เพราะฟิลเลอร์แท้จะสลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง ไม่มีผลทำให้ผิวหน้าเหี่ยวมากกว่าเดิม หากถ้าไม่ได้ฉีดฟิลเลอร์ต่อ ผิวก็จะกลับคืนสภาพเดิม แต่ยังดีกว่าเดิม เนื่องจากฟิลเลอร์จะทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดและรอบๆ มีความชุ่นชื้น มีน้ำมาหล่อเลี้ยงมากขึ้น ทำให้ คอลลาเจนและอิลาสติน
บริเวณนั้นถูกสร้างขึ้นมาด้วย ถึงฟิลเลอร์จะสลายหมด คอลลาเจนและอิลาสตินของร่างกายก็ยังคงอยู่ บางคนที่รู้สึกกว่าเหี่ยวกว่าเดิมเพราะว่าไม่คุ้นเคยกับลักษณะของผิวหน้าตัวเองในตอนที่ฟิลเลอร์สลายหมดแล้วมากกว่าค่ะ หรืออาจเกิดจากลักษณะการใช้ชีวิต (lifestyle) ที่ไม่ดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง เช่น นอนดึก ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ตากแดด โดยไม่ปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดหรือกางร่ม รวมทั้งอายุที่เพิ่มมากขึ้นนะคะ
ฟิลเลอร์ ที่ได้มาตรฐานจะอยู่ได้นานแค่ไหน
ฟิลเลอร์เมื่อฉีดเข้าไปจะไม่อยู่ถาวร ซึ่งสารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) จะย่อยสลายได้เอง ตามกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกาย ส่วนใหญ่แล้วหากฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานครั้งหนึ่ง จะอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน แล้วแต่รุ่นของฟิลเลอร์
ประมาณระยะเวลาคร่าวๆในแต่ละจุดที่ฉีดตามนี้นะคะ
- ใต้ตา: 6-9 เดือน
- Skin Booster: 6-9 เดือน
- ปาก: 6-12เดือน (ขึ้นอยู่กับของที่ทาน)
- ร่องแก้ม: 12 เดือน
- ขมับ: 18-24 เดือน
- หลุมสิว: 6-12เดือน แต่ทำร่วม dermaflix จะตื้นขึ้นถาวร
- ริ้วรอยต่างๆ: 6-12 เดือน แต่ทำร่วม dermafix จะตื้นขึ้นถาวร
- คาง: 18-24 เดือน
**ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตด้วยนะคะ
ควรฉีดกี่ CC ดี
คุณหมอจะประเมิณปัญหาใบหน้าของแต่ละท่าน หมายถึงจำนวนที่ใช้จะเเตกต่างกันออกใบขึ้นอยู่กับปัญหาใบหน้าของแต่ละท่าน เทคนิคการฉีดที่เราจะไม่ใช้เยอะมากเกินไปในครั้งเเรกเนื่องจากคนที่ฉีดหากฉีดมากเกินไปแล้วไม่ชอบจะได้ไม่ต้องเสียเงินสลาย เป็นการมาเติมในครั้งต่อไปจะดีกว่าค่ะ
จำนวน CC ที่แนะนำการฉีดฟิลเลอร์เเต่ละจุด
- ตาข้างละ 1 cc
- Skin Booster 1 cc
- ร่องแก้มข้างละ 1 cc
- ขมับข้างละ 1 cc
- ปาก 1-2 cc
- คาง 1-2 cc
- หน้าผาก 2-5 cc
ฟิลเลอร์ตกค้างจริงไหม
ไม่จริงแน่นอนค่า หากเป็นฟิลเลอร์แท้ สลายหมดแน่นอน
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดยาและอาหารเสริม โดยเฉพาะยาในกลุ่มยา บรรเทาปวด NSAIDs เช่น Ibuprofen Aspirin เพราะอาจทำให้เกิดอาการบวม หรือรอยช้ำบริเวณตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ได้ รวมถึงอาหารเสริมบางประเภท เช่น วิตามินอี แปะก๊วย น้ำมันปลา ก่อนการรักษาประมาณ 3-4 วัน เพราะอาจมีผลทำให้แผลช้ำ เลือดหยุดไหลช้า
- ต้องแน่ใจว่าไม่มีอาการแพ้สารตัวนี้ และตรวจสอบให้มั่นใจว่า สาร HyaluronicAcid ที่ฉีดเข้าไปนั้นได้รับมาตรฐานและผ่านการรับรองจาก สถาบันทางการแพทย์หรือมาตรฐานทางสาธารณสุข ที่เชื่อถือได้
- ไม่ควรทำขณะอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ให้นมบุตร หรือกำลังรับยาต้านการแข็งตัวของเลือดเพราะอาจส่งผลข้างเคียงได้
- หากคุณเป็นคนที่เกิดแผลนูนหรือคีรอยด์ ได้ง่าย ให้ทดลองทำส่วนอื่น ก่อนที่ไม่ใช่ใบหน้าหรือในบริเวณที่เห็นได้ชัด
คำแนะนำหลังการฉีดฟิลเลอร์
- หลังการฉีด โดยมากแล้วจะมีอาการผิวหนังบวมแดง อาจมีอาการคันหรือคล้ำได้ เป็นก้อนใต้ผิวหนังบริเวณที่ฉีดยา บางรายอาจพบรอยด่างหรือผิวหนังมีสี ที่เปลี่ยนไป แต่อาการเหล่านี้มักหายไปเองใน 48 ชั่วโมง
- ใน 12 ชั่วโมงแรก ไม่ควรแต่งหน้าหรือใช้ครีมบำรุงผิวทันทีหลังฉีด หากฉีดที่ริมฝีปาก ให้งดการใช้หลอดดูด งดสูบบุหรี่ และอย่าทาลิปสติกทันทีรวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว
- งดการออกกำลังกายหนักๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก รวมถึงการสัมผัสโดนความร้อน เช่น ซาวน่า การออกแดดจัดอาจทำให้การฉีด ไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรและทำใหฟิลเลอร์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- อาจมีรอยช้ำได้ แต่จะหายไปเองในเวลา 1 อาทิตย์ หากไม่ แนะนำให้พบแพทย์
- ช่วง 7 วันแรก ควรงดการนวดหน้าแรง ๆ หรือการทำทรีทเม้นท์ร้อน เช่น RF หรือซาวน่า
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 2 อาทิตย์แรก
- แนะนำให้กลับมาพบแพทย์หลังทำ 2 อาทิตย์ หรือหากมีอาการผิดปกติอย่างไร ควรพบแพทย์ทันที