รีวิวยี่ห้อโบท็อกซ์ มีอะไรบ้าง ยี่ห้อไหนดีที่สุด

ปัจจุบันการฉีดโบท็อกซ์ ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย ช่วยลดเลือนริ้วรอย ลดรอยย่นทั้งบริเวณหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว หางตา โบท็อกซ์ลดกราม ลดน่อง ลดเหงื่อ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทำให้มีโบท็อกซ์ถูกผลิตและวางขายหลากหลายยี่ห้อ 

จนทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัยว่า โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร เลือกฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดีที่สุด โบท็อกซ์เกาหลี โบท็อกซ์เยอรมัน โบท็อกซ์อเมริกา ตัวไหนดีกว่ากัน Linna Clinic รวมข้อมูลของโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อมาฝากกันแล้วค่ะ

โบท็อกซ์ คืออะไร

 โบท็อกซ์ (Botox) ที่เราเรียกติดปากกันนั้น ความจริงแล้วเป็นชื่อทางการค้า (Brand Name) ที่บริษัท Allergan USA บริษัทยายักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกา ใช้จดทะเบียนให้กับสาร Botulinum Toxin Type A (โบทูลินัม ท็อกซิน ไทป์ เอ) เพื่อนำมาใช้ในวงการแพทย์และวงการความงามเป็นเจ้าแรกของโลก ซึ่งก็คือ BOTOX ® (ของบริษัท Allergan) ที่โด่งดังและได้รับความนิยมในวงการแพทย์ทั่วโลก ซึ่งภายในเวลาต่อมาก็มีบริษัทอื่นๆ ได้นำเอาสารโบทูลินัม ท็อกซิน ไทป์ เอ มาใช้ผลิตตัวยาสำหรับฉีดเพื่อลดเลือนริ้วรอย ซึ่งมีชื่อแบรนด์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น Dysport (อังกฤษ), Xeomin(เยอรมัน), Aestox(เกาหลี), Nabota (เกาหลี), Botulax(เกาหลี), BTXA(ฮ่องกง) แต่เราก็คุ้นชิน และเรียกทุกแบรนด์ด้วยคำว่า โบท็อกซ์ นั่นเองค่ะ
ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย ช่วยลดเลือนริ้วรอย ลดรอยย่นทั้งบริเวณหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว หางตา โบท็อกซ์ลดกราม ลดน่อง ลดเหงื่อ

ซึ่งสาร Botulinum Toxin Type A สกัดมาจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่าคลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) มีฤทธิ์ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานได้น้อยลงชั่วคราว ช่วยลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับใบหน้าให้ดูเรียวขึ้น ในบทความนี้จะขอเรียกชื่อสารโบทูลินัม ท็อกซิน ไทป์ เอ สั้นๆ ว่า โบท็อกซ์ เพื่อให้เข้าใจได้โดยง่ายค่ะ

โบท็อกซ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. ไทย ปี 2022

ปัจจัยแรกที่ควรใช้พิจารณาเลือกยี่ห้อโบท็อกซ์ที่จะใช้คือ ควรเป็นโบท็อกซ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. ของประเทศไทย และผ่านการรับรองมาตรฐานจากประเทศผู้ผลิต ซึ่งในปัจจุบันมีโบท็อกซ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. ไทย ทั้งหมด 9 ยี่ห้อ ดังนี้

  1. โบท็อกซ์ยี่ห้อ ALLERGAN ประเทศอเมริกา
  2. โบท็อกซ์ยี่ห้อ XEOMIN ประเทศเยอรมัน
  3. โบท็อกซ์ยี่ห้อ DYSPORT ประเทศอังกฤษ
  4. โบท็อกซ์ยี่ห้อ AESTOX ประเทศเกาหลี
  5. โบท็อกซ์ยี่ห้อ BOTULAX ประเทศเกาหลี
  6. โบท็อกซ์ยี่ห้อ NABOTA ประเทศเกาหลี
  7. โบท็อกซ์ยี่ห้อ HUGEL ประเทศเกาหลี
  8. โบท็อกซ์ยี่ห้อ CLODEW ประเทศเกาหลี
  9. โบท็อกซ์ยี่ห้อ BTXA จากประเทศฮ่องกง

โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร เลือกฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี?
จากข้อมูลโบท็อกซ์ทั้ง 9 ยี่ห้อ จะเห็นได้เลยค่ะว่าสามารถแบ่งกลุ่มโบท็อกซ์ตามกลุ่มประเทศที่ผลิตได้ 2 กลุ่มหลักๆ คือ

  1. โบท็อกซ์จากฝั่งยุโรป ได้แก่ โบท็อกซ์ยี่ห้อ Allergan, โบท็อกซ์ยี่ห้อ Dysport และ โบท็อกซ์ยี่ห้อ Xeomin
  2. โบท็อกซ์จากฝั่งเอเชีย ได้แก่ โบท็อกซ์ยี่ห้อ Aestox, โบท็อกซ์ยี่ห้อ Nabota, โบท็อกซ์ยี่ห้อ Botulax, โบท็อกซ์ยี่ห้อ Hugel, โบท็อกซ์ยี่ห้อ Clodew จากประเทศเกาหลี และ โบท็อกซ์ยี่ห้อ BTXA จากประเทศฮ่องกง
    ซึ่งโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อ แต่ละตัว จะมีจุดที่แตกต่างกันออกไปประมาณ
  3. จุดด้วยกัน ได้แก่ ความบริสุทธิ์ของตัวยา ความรู้สึกขณะฉีด และ ระยะเวลาในการคงอยู่หลังฉีด

1. โบท็อกซ์ยี่ห้อ ALLERGAN ประเทศอเมริกา
เป็นโบท็อกซ์แบรนด์แรกของโลกที่นำสารโบทูลินัม ท็อกซิน ไทป์ เอ (Botulinum Toxin Type A) มาใช้เพื่อการเสริมความงาม ลดขนาดกล้ามเนื้อ และช่วยลดเลือนริ้วรอย ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัท Allergan USA เป็นเวลายาวนานกว่า 30 ปี จุดเด่นของโบท็อกซ์ Allergan คือ มีความบริสุทธิ์ของตัวยาสูงมากที่สุด (99.5%) จึงทำให้เกิดอาการแพ้ หรืออาการดื้อยาหลังจากการฉีดได้น้อยมาก ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก U.S. FDA เห็นผลลัพธ์หลังการฉีดที่ชัดเจน หน้าเรียวสวยเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่ตึง เป็นโบท็อกซ์คุณภาพสูงที่ลูกค้าส่วนใหญ่ไว้วางใจและเลือกฉีด คงผลลัพธ์หลังการฉีดได้นาน 5-8 เดือน

2. โบท็อกซ์ยี่ห้อ XEOMIN ประเทศเยอรมัน
โบท็อกซ์จากประเทศเยอรมัน ที่นำเอาข้อดีของโบท็อกซ์ Allergan (อเมริกา) และ Dysport (อังกฤษ) มารวมเข้าด้วยกัน ทำให้คุณสมบัติโดยรวมของ Xeomin จะอยู่กึ่งกลางระหว่างโบท็อกซ์ต้นแบบทั้ง 2 ตัว ขึ้นชื่อเรื่องความบริสุทธิ์ของตัวยาสูงมาก ไม่มีการปนเปื้อนของคอมเพล็กโปรตีนในตัวยา ซึ่งมีงานวิจัยที่ออกมารับรองว่า Xeomin ให้ผลลัพธ์ที่ดีในเคสที่มีปัญหาดื้อโบท็อกซ์ (โดยจะต้องหยุดฉีดโบท็อกซ์มาอย่างน้อย 2-3 ปี) ให้ผลลัพธ์หลังการฉีดที่เป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่ตึง นิยมใช้ฉีดเพื่อลิฟต์กรอบหน้า ลดริ้วรอย ลดกล้ามเนื้อแขน ลดน่อง หลังฉีดอยู่ได้นาน 3-6 เดือน

3. โบท็อกซ์ยี่ห้อ DYSPORT ประเทศอังกฤษ
โบท็อกซ์ชื่อดังจากประเทศอังกฤษ มีความบริสุทธิ์ของตัวยาสูง มีขนาดโมเลกุลเล็กกว่า Allergan ของอเมริกาเล็กน้อย โดดเด่นด้วยเทคนิคการฉีดที่เรียกว่า ABO LIFTING เห็นผลลัพธ์ของการยกกระชับใบหน้าได้ไว และยังช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง นอกไปจากนี้ยังมีงานวิจัยรองรับว่าโบท็อกซ์ Dysport มีคุณสมบัติกระตุ้นให้เซลล์ผิวผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้นอีกด้วย จึงช่วยเสริมให้ผิวดูยืดหยุ่น กระชับ และอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
โบท็อกซ์ Dysport เหมาะกับการฉีดในส่วนกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น หน้าผาก ต้นแขน น่อง ใช้ลิฟต์กรอบหน้า กระชับรูขุมขน รวมถึงฉีดลดเหงื่อได้ โบท็อกซ์ยี่ห้อ Dysport ฉีดลดกรามอยู่ได้นาน 5-6 เดือน ฉีดลดริ้วรอยตามส่วนต่างๆ อยู่ได้นาน 3-4 เดือน ฉีดลดเหงื่ออยู่ได้นาน 3-5 เดือน และฉีดลดกล้ามเนื้อน่องอยู่ได้นาน 1 ปี

4. โบท็อกซ์ยี่ห้อ AESTOX ประเทศเกาหลี
เป็นโบท็อกซ์ เกาหลี ที่มีความบริสุทธิ์ของตัวยาสูงถึง 99.5% จึงช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอาการแพ้หรือการดื้อยาหลังฉีดได้ เห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดได้ไว ให้งานที่เนียนสวยเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่ตึง นิยมฉีดลดริ้วรอยหางตา ตีนกา รอยย่นหน้าผาก ปรับหน้าเรียว หลังฉีดอยู่ได้นาน 2-4 เดือน

5. โบท็อกซ์ยี่ห้อ BOTULAX ประเทศเกาหลี
เป็นโบท็อกซ์ยอดนิยม นำเข้าจากประเทศเกาหลี ผลิตโดยใช้โบท็อกซ์ Allergan เป็นต้นแบบ ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง ราคาย่อมเยากว่า Allergan แพทย์นิยมใช้ฉีดเพื่อปรับกรอบหน้าให้เรียวสวย หน้าใส ลดรอยสิว โบท็อกซ์กระชับรูขุมขน ให้ผลลัพธ์หลังฉีดที่เนียนสวย เป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง หลังฉีดอยู่ได้นาน 3-4 เดือน

6. โบท็อกซ์ยี่ห้อ NABOTA ประเทศเกาหลี
โบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี โดดเด่นด้วยตัวยาที่มีความบริสุทธิ์มากถึง 98.7% ผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) ให้ผลลัพธ์หลังการฉีดที่สวย เนียนเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการปรับงานผิวแบบด่วนๆ นิยมใช้ฉีดเพื่อลดกราม ลดริ้วรอยตามส่วนต่างๆ เช่น รอยขมวดคิ้ว รอยย่นหน้าผาก โบท็อกซ์กระชับรูขุมขน หลังฉีดอยู่ได้นาน 3-4 เดือน

7. โบท็อกซ์ยี่ห้อ HUGEL ประเทศเกาหลี
เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลีเช่นเดียวกันค่ะ มีความบริสุทธิ์ของตัวยามากถึง 99.5% ยากระจายตัวดี ให้งานสวย ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง นิยมใช้ฉีดลิฟต์กรอบหน้า ลดริ้วรอยหน้าผาก ระหว่างคิ้ว และริ้วรอยรอบดวงตา และใช้ฉีดเพื่อลดปีกจมูก หลังฉีดอยู่ได้นาน 3-4 เดือน

8. โบท็อกซ์ยี่ห้อ CLODEW ประเทศเกาหลี
โบท็อกซ์ตัวล่าสุดจากประเทศเกาหลี ที่ผ่านการรับรอง อย. ของไทยเป็นที่เรียบร้อยค่ะ ความบริสุทธิ์ของตัวยา 99.5% ใช้เทคโนโลยี Double V Lifting ช่วยยกกระชับผิวได้อย่างรวดเร็ว เห็นผลแทบจะทันที งานดูสวยเป็นธรรมชาติ ไม่ตึง ไม่แข็ง หลังฉีดอยู่ได้นาน 3-4 เดือน

9. โบท็อกซ์ยี่ห้อ BTXA จากประเทศฮ่องกง
โบท็อกซ์จากฮ่องกง ที่พัฒนาโดยนักวิจัยชาวฮ่องกงและผู้เชี่ยวชาญด้านโบท็อกซ์จากประเทศอเมริกา ความบริสุทธิ์ของตัวยา 99.5% เหมาะสำหรับใช้ฉีดเพื่อลดกล้ามเนื้อที่มีขนาดใหญ่ เช่น ต้นแขน น่อง ลดกราม ปรับกรอบหน้าได้อย่างเห็นผล และใช้ฉีดเพื่อลดริ้วรอยได้เช่นเดียวกัน หลังฉีดอยู่ได้นาน 3-5 เดือน

เลือกฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดีที่สุด?
คำถามที่มักพบได้บ่อยคือ โบท็อกซ์เกาหลี กับโบท็อกซ์อเมริกา เยอรมัน อังกฤษ แบบไหนดีกว่ากัน ควรเลือกฉีดโบท็อกซ์ไหนถึงจะดีที่สุด ปัจจัยที่ใช้เลือกยี่ห้อโบท็อกซ์ในการรักษามีอยู่ด้วยกันหลายปัจจัย ได้แก่

  • บริเวณที่ต้องการฉีดโบท็อกซ์ เช่น บริเวณที่มีกล้ามเนื้อมัดใหญ่ๆ เช่น ต้นแขน น่อง และกราม ที่ได้ผลดี เห็นผลไว แพทย์อาจแนะนำให้ใช้โบท็อกซ์ Dysport, BTXA ที่ตัวยากระจายตัวได้กว้าง หรือเป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี เช่น Aestox หรือ Nabota ที่มีราคาถูกกว่า
  • ระยะเวลาที่โบท็อกซ์จะคงอยู่ สำหรับคนที่ต้องการคงผลลัพธ์หลังการฉีดได้นานกว่า เน้นตัวยาที่บริสุทธิ์เพื่อลดโอกาสการดื้อยา จะเหมาะกับโบท็อกซ์ยี่ห้อ Allergan, Dysport และ Xeomin จากฝั่งยุโรปมากกว่าโบท็อกซ์จากฝั่งเกาหลี
  • ราคาต่อยูนิต การเลือกใช้ยี่ห้อโบท็อกซ์นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการ และงบประมาณของคนไข้ด้วยเช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งระดับราคาของโบท็อกซ์ฝั่งยุโรปก็จะสูงกว่า แต่ข้อดีคือคงผลลัพธ์หลังการฉีดได้นานกว่า ในขณะที่โบท็อกซ์ฝั่งเกาหลี ฮ่องกง ก็จะมีราคาที่ย่อมเยากว่า แต่จะคงผลลัพธ์หลังการฉีดได้ไม่นานเท่าโบท็อกซ์จากฝั่งยุโรป

รีวิวฉีดโบท็อกซ์ ที่ Linna Clinic

สำหรับใครที่กำลังสนใจฉีดโบท็อกซ์เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวสวย ลดริ้วรอยบนใบหน้า กระชับรูขุมขน ฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดต้นแขน ลดน่อง ลดกราม หรือต้องการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดเหงื่อ สามารถสอบถามรายละเอียดและขอคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางได้ที่ Linna Clinic หรือแอดไลน์เข้ามาเพื่อสอบถามและจองคิวการรักษาล่วงหน้าที่ Linna Clinic ได้เลยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Scroll to Top