ฉีดโบท็อกซ์ ดีจริงไหม รวม 9 ข้อควรรู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์

9 ข้อควรรู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์ ฉีดแล้วดีจริงไหม โบท็อกซ์ช่วยเรื่องอะไร

ฉีดโบท็อกซ์ (Botox) หรือที่นิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า ฉีดโบ หัตถการเพื่อผิวสวย กระชับ ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เพราะเป็นหัตถการที่ทำได้ง่าย ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ และเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังการฉีด ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์นิยมฉีดหลากหลายบริเวณ ไม่ว่าจะเป็นโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า ปรับหน้าเรียว ฉีดโบท็อกซ์ลดรอยย่นหน้าผาก ลดน่อง ลดการนอนกัดฟัน ลดการปวดเมื่อยจาก Office Syndrome โบท็อกซ์รักแร้ ลดเหงื่อและกลิ่นตัว สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์ โบท็อกซ์ช่วยเรื่องอะไร โบท็อกซ์กี่วันเห็นผล เลือกฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี บทความนี้มีคำตอบ

สารบัญ

1. โบท็อกซ์ คืออะไร หลักการทำงานของโบท็อกซ์

โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของสารโบทูลินัม ท็อกซิน ไทป์เอ (Botulinum Toxin Type A) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สกัดได้จากแบคทีเรียครอสตรเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ที่ถูกค้นพบโดยแพทย์ชาวอเมริกันว่าสารตัวนี้สามารถออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) เมื่อฉีดเข้าผิวในปริมาณที่พอเหมาะ จะส่งผลให้มัดกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาต ช่วยยับยั้งไม่ให้กล้ามเนื้อหดหรือเกร็งตัวเป็นเวลาชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อเริ่มคลายตัวและทำงานได้น้อยลง ปัญหาริ้วรอยที่มีอยู่ก็จะดูดีขึ้น ช่วยลดโอกาสการเกิดริ้วรอยใหม่ๆ หลังฉีดโบท็อกซ์ผิวก็จะยิ่งดูสวยกระชับ และอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้นค่ะ

นอกจากจะช่วยลดริ้วรอย ปรับผิวให้กระชับแล้วนั้น การฉีดโบท็อกซ์ยังช่วยจัดการปัญหาอื่นๆ ได้มากมาย ทั้งช่วยลิฟต์กรอบหน้า ให้หน้าเรียวกระชับ ลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง ลดกราม ลดกล้ามเนื้อน่อง ช่วยลดเหงื่อและกลิ่นตัว และยังสามารถฉีดโบท็อกซ์เพื่อรักษาอาการไมเกรนหรือปวดหัวเรื้อรังได้อีกด้วยค่ะ

2. ฉีดโบท็อกซ์ ช่วยเรื่องอะไร ดีจริงไหม

ด้วยคุณสมบัติของสารโบท็อกซ์ที่ลดการทำงานของกล้ามเนื้อลง และยับยั้งไม่ให้กล้ามเนื้อหดหรือเกร็งตัวเป็นเวลาชั่วคราว การฉีดโบท็อกซ์จึงช่วยลดปัญหาผิวได้หลากหลายค่ะ

  • โบท็อกซ์ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ยกกระชับผิว และลดเลือนริ้วรอย ทั้งรอยย่นบริเวณหน้าผาก หางตา รอยย่นระหว่างคิ้ว ช่วยยกกระชับผิวบริเวณกรอบหน้าและลำคอ ช่วยให้ผิวหน้าดูกระชับและอ่อนเยาว์ ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย คมชัด
  • โบท็อกซ์ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัวและใช้งานได้น้อยกว่าเก่า จะทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง ช่วยลดขนาดกราม ลดขนาดกล้ามเนื้อน่องกล้ามเนื้อแขน ลดขนาดปีกจมูก
  • โบท็อกซ์ช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ หรือภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis) โดยสารโบท็อกซ์จะออกฤทธิ์ยับยั้งสาร Acetylcholine ซึ่งเป็นสารที่ทำหน้าที่ควบคุมการหลั่งของเหงื่อ ช่วยให้เหงื่อลดลงตั้งแต่ 1-3 วันหลังฉีด และจะเห็นผลได้เต็มที่ประมาณ 1 สัปดาห์หลังฉีดโบท็อกซ์ บริเวณที่นิยมฉีดได้แก่ รักแร้ ฝ่ามือ และฝ่าเท้า
  • โบท็อกซ์ช่วยรักษาภาวะการทำงานมากผิดปกติของกล้ามเนื้อบางส่วน เช่น ภาวะหนังตากระตุก ตาเข
  • โบท็อกซ์ช่วยรักษาอาการปวดศีรษะเรื้อรัง ปวดหัวจากความเครียด ไมเกรน และช่วยแก้อาการ Office Syndrome โดยจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้อาการปวดน้อยลง

3. โบท็อกซ์ ฉีดตรงไหนได้บ้าง

จากคุณสมบัติที่ช่วยยับยั้งไม่ให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวหรือหดตัวเป็นเวลาชั่วคราวของสารโบท็อกซ์ จึงสามารถปรับใช้โบท็อกซ์เพื่อแก้ปัญหาผิวได้หลายตำแหน่ง โดยบริเวณที่นิยมฉีดโบท็อกซ์ได้แก่

  • โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า ลดขนาดกราม ปรับหน้าเรียว
  • โบท็อกซ์หน้าผาก
  • โบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว
  • โบท็อกซ์ยกหางตา ลดรอยตีนกา
  • โบท็อกซ์ลดเหงื่อ (รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า)
  • โบท็อกซ์ลดกล้ามเนื้อ (ลดน่อง ลดแขน ลดปีกจมูก ลดโหนกแก้ม)
  • โบท็อกซ์กระชับรูขุมขน ช่วยลดปัญหาหน้ามัน ช่วยกระชับรูขุมขน
  • โบท็อกซ์ยกมุมปาก

4. ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม

การฉีดโบท็อกซ์เป็นหัตถการความงามที่มีความปลอดภัยสูงมากค่ะ โดยสารโบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไปสามารถสลายตัวได้ภายใน 4-6 เดือนหลังฉีด ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกายอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้จะต้องเลือกฉีดโบท็อกซ์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ดำเนินหัตถการด้วยแพทย์เฉพาะทาง และใช้โบท็อกซ์แท้ในการฉีดเท่านั้นค่ะ ซึ่งอันตรายและผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกซ์ที่เห็นข่าวได้บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นฉีดโบท็อกซ์แล้วหน้าแข็ง ยิ้มแข็ง ฉีดโบท็อกซ์แล้วหนังตาตก ปากเบี้ยว หรือในบางรายรุนแรงถึงขั้นตาบอด ปัญหาเหล่านี้มักเกิดขึ้นในเคสที่ฉีดโบท็อกซ์กับหมอกระเป๋า และมักใช้โบท็อกซ์ปลอมในการรักษา ซึ่งอันตรายและทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้เยอะมาก ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ควรเลือกฉีดโบท็อกซ์กับแพทย์เฉพาะทาง ใช้โบท็อกซ์แท้และมีคุณภาพสูงเท่านั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังการรักษาที่เห็นผลและปลอดภัย 100%

5. โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ราคาเท่าไหร่

ในปัจจุบันมีโบท็อกซ์ให้เราเลือกฉีดหลายยี่ห้อมาก โดยยี่ห้อที่ได้รับความนิยม ได้แก่

  1. โบท็อกซ์อเมริกา ยี่ห้อ Allergen
  2. โบท็อกซ์อังกฤษ ยี่ห้อ Dysport
  3. โบท็อกซ์เยอรมัน ยี่ห้อ Xeomin
  4. โบท็อกซ์เกาหลี ยี่ห้อ Aestox, Nabota, Hugel, Clodew
  5. โบท็อกซ์ฮ่องกง ยี่ห้อ BTXA

ซึ่งราคาของการฉีดโบท็อกซ์แต่ละครั้งจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ และปริมาณ (ยูนิต) ที่ต้องฉีด โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาจะเป็นผู้ประเมินสภาพผิว เลือกใช้ยี่ห้อและปริมาณที่ใช้อย่างเหมาะสม

6. โบท็อกซ์กี่วันเห็นผล ฉีดโบท็อกซ์อยู่ได้กี่เดือน

ระยะเวลาการเห็นผลหลังการฉีดโบท็อกซ์จะแตกต่างกันออกไป ดังนี้

  • ฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอย เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว หรือริ้วรอยรอบดวงตา จะเริ่มเห็นผลภายใน 3-4 วัน และจะเห็นผลได้อย่างเต็มที่ใน 14 วัน
  • ฉีดโบท็อกซ์ลดขนาดกล้ามเนื้อ การฉีดโบท็อกซ์ลดปีกจมูกจะเริ่มเห็นผลหลังฉีดในช่วง 5-7 วัน ส่วนการฉีดเพื่อลดกล้ามเนื้อน่องหรือกล้ามเนื้อแขน จะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนหลังการฉีด เพราะกล้ามเนื้อมีขนาดค่อนข้างใหญ่ค่ะ
  • ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม จะเริ่มเห็นผลหลังฉีด 2 สัปดาห์ และเห็นผลชัดเจนที่สุดเมื่อครบ 1 เดือน
  • ฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ จะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ช่วง 1-3 วันหลังการฉีด และเหงื่อจะลดลงเกือบหมดประมาณ 1 สัปดาห์หลังฉีด
  • ฉีดโบท็อกซ์แก้ปวดไมเกรน รักษาอาการตาเข หนังตากระตุก จะเริ่มเห็นผลภายใน 3-4 วันหลังการฉีด และจะเห็นผลอย่างเต็มที่ประมาณ 2 สัปดาห์หลังการฉีด

ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการฉีดโบท็อกซ์จะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด ยี่ห้อและปริมาณ (ยูนิต) ที่ใช้ รวมถึงสภาพผิวและการดูแลผิวหลังฉีดของคนไข้ด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนานและชัดเจนมากยิ่งขึ้น จึงแนะนำให้คนไข้เข้ามาฉีดซ้ำอย่างต่อเนื่องตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำค่ะ

7. ฉีดโบท็อกซ์เจ็บไหม

ระหว่างฉีดโบท็อกซ์คนไข้จะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ เพราะเข็มที่ใช้ฉีดไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก ทั้งนี้หากคนไข้กลัวเจ็บ สามารถแจ้งให้แพทย์แปะยาชาก่อนการรักษาได้ค่ะ

8. ข้อห้ามก่อน-หลัง ฉีดโบท็อกซ์

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ ควรเตรียมตัวให้พร้อมดังนี้ค่ะ

  • ในกรณีที่โรคประจำตัว ต้องกินยาเพื่อรักษาโรค ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำการรักษาทุกครั้ง
  • หยุดใช้ยาแก้ปวดกลุ่มแอสไพริน ยาต้านการอักเสบ เช่น ไอบูโพรเฟน ไพร็อกซิแคม อินโดเมธาซิน ฯลฯ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันอาการช้ำและห้อเลือดหลังฉีดโบท็อกซ์
  • งดทานวิตามินที่มีส่วนกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เช่น วิตามินอี น้ำมันตับปลา สารสกัดกระเทียม โสมตังกุย สารสกัดใบแปะก๊วย รวมถึงอาหารเสริมคอลลาเจน เพื่อป้องกันปัญหาเลือดหยุดไหลยากหลังฉีดโบท็อกซ์
  • งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
  • ผู้ที่เคยมีประวัติแพ้สารโบทูลินัมท็อกซิน ผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างรุนแรง ผู้ป่วยที่ต้องทานยาสลายลิ่มเลือดเป็นประจำ รวมถึงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรไม่ควรฉีดโบท็อกซ์

ข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามหลังฉีดโบท็อกซ์

  • หลังฉีดโบท็อกซ์เสร็จทันที ให้รีบขยับ หรือเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณนั้นๆ 1-2 ครั้ง
  • หลังฉีดโบท็อกซ์ 3-4 ชั่วโมง ให้งดนอนราบ หรือก้มหัวลงต่ำเพื่อป้องกันการไหลของโบท็อกซ์
  • งดกิจกรรมที่ให้ทำหน้าสัมผัสความร้อนหรือกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนเยอะ เช่น การนวดหน้า หรืออบซาวน่า การออกกำลังกายหนักๆ การกินอาหารประเภทปิ้งย่างที่ต้องนั่งหน้าเตานานๆ และควรงดหัตถการที่ใช้ความร้อนบนผิว เช่น การทำเลเซอร์, RF, Thermage, และ HIFU อย่างน้อย 1 เดือนหลังฉีดโบท็อกซ์
  • งดอาหารหมักดอง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อยในช่วง 2 วันหลังการฉีด หรือจะให้ดีที่สุดควรงดให้ได้ประมาณ 2 สัปดาห์

9. รีวิวโบท็อกซ์ ที่ลินนาคลินิก

โบท็อกซ์กราม

โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า

โบท็อกซ์ริ้วรอย

บทความที่เกี่ยวข้อง

Scroll to Top