LINNA Clinic HIFU 8D

สวยได้ไม่ต้องพึ่งมีดหมอ LINNA HIFU 8D คืออะไร

LINNA Clinic HIFU 8D คือนวัตกรรมการยกกระชับใบหน้าและร่างกายแบบไม่เจ็บจากเกาหลี ความพิเศษคือ HIFU ตัวนี้ใช้ TDT Technology เพื่อลดความเจ็บลงเพราะ HIFU ทั่วไปในท้องตลาดเจ็บมากจนทนไม่ไหว คุณหมอแอบย้ำว่า มันดีกว่า Ulthera อีกนะ เพราะว่ามันไม่เจ็บและมันยกได้จริง! และ 8D คือ เทคนิคการยกกระชับแบบพิเศษของคุณหมอที่ลินนาคลินิก เพื่อทำให้ผลลัพธ์ชัดเจนและไม่เจ็บ

HIFU ย่อมาจาก High Intensity Focus Ultrasound คือการนำคลื่น Ultrasound ซึ่งเป็นคลื่นที่ปลอดภัยสูง นำมาใช้ในการยกกระชับใบหน้า โดยพลังงานที่ยิงจะลงลึกถึงโครงสร้างเนื้อเยื่อชั้นในที่ยึดมีหน้าที่โครงสร้างใบหน้า (SMAS) คลื่น ultrasound จะลงไปก่อให้เกิดแผลที่ชั้นเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนังระดับลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวที่หมอศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า ทำให้SMASเกิดแผลและเกิดการหดตัว คล้ายกับการทำศัลยกรรมดึงหน้า โดยที่ผิวหนังชั้นบนไม่มีแผลหรือร่องรอยใดๆ นอกจากการยกกระชับแล้ว HIFUที่ลินนาคลินิก ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดีกว่าเครื่องทั่วไปในท้องตลาดอีกด้วย ที่ลินนาคลินิกคุณหมอทำเองทุกเคสนะคะ มั่นใจถึงความปลอดภัยได้เลยค่า

9 คำถามที่พบบ่อย คลิกคำถามเพื่อหาคำตอบได้เลย!

1. LINNA HIFU 8D คืออะไร อันตรายไหม

หลักการทำงานของ LINNA HIFU 8D ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ที่พัฒนามาจากการอัลตร้าซาวด์ดูครรภ์ทางการแพทย์ มีความปลอดภัยสูงและไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก (เพราะไม่ใช่ laser และไม่ใช่คลื่นแสง) และคลื่นนี้ไม่เป็นอันตรายต่อสายตา จึงสามารถเน้นบริเวณใต้ตาและรอบดวงตาให้ยกกระชับได้โดยตรงอีกด้วยค่า และด้วยเทคนิคพิเศษของแพทย์ที่ลินนาคลินิก ทำให้การทำไม่เจ็บแต่เห็นผลชัดเจน

2. ควรทำตอนอายุเท่าไหร่

เมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไป 90% ในใบหน้าหลายคน จะเริ่มหย่อนคล้อยลง ทำให้เริ่มมีร่องร่องแก้ม ร่องใต้ตา และหากปล่อยไป ผิวหน้าจะเริ่มหย่อนคล้อยลงเรื่อยๆ เราควรเริ่มดูแลทำให้ใบหน้าของเรากระชับอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่อายุยังไม่มาก เพื่อป้องกัน และไม่ต้องเสียเงินมากตอนที่ปัญหามากเเล้ว การเริ่มทำ ตั้งแต่อายุน้อยจะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร เช่น ร่องใต้ตา ร่องมุมปาก เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้ดูโทรม ดูมีอายุ อายุ 20 กว่าๆ ก็สามารถเริ่มทำได้แล้วค่า แต่หากใครที่อายุมากกว่านี้ ก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะ HIFU ก็ยังช่วยท่านได้อยู่ดีค่า เพียงแต่อาจจะต้องมาย้ำสัก 3-4 เดือน ครั้ง เพื่อให้ผลอยู่ได้นานขึ้นค่า

3. HIFU เห็นผลทันทีจริงไหม

หลังทำ HIFU เห็นผลทันที 10-20% และเห็นผลเต็มที่ใน 1-2 เดือน และอยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน ทำเสร็จแล้วไปใช้หน้าได้ทันทีเลย ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น ไม่บวม ไม่แดง

4. LINNA HIFU 8D ทำได้ทั่วตัวจริงไหม เห็นผลไหม

LINNA HIFU 8D สามารถยิงได้ทุกบริเวณที่เราต้องการให้ผิวยกกระชับขึ้น โดยจะมีหัวที่ยิงหลากหลายตามระดับความลึกของผิวในบริเวณนั้นๆ
จุดที่ยิงแล้วเห็นผลชัดเจนแยกเป็น 2 ส่วนได้แก่
ใบหน้า – เหนียง คอ ร่องมุมปาก ร่องแก้ม แก้ม ใต้ตา หน้าผาก เปลือกตาบน และกรอบหน้า
ร่างกาย – ต้นแขน ต้นขา เอว หน้าท้อง 

5. Ulthera vs LINNA HIFU 8D vs HIFU บุฟเฟ่ ที่ราคาถูกมากๆ

Ulthera เป็นเครื่องที่ตีแบรนด์จากอเมริกาแต่ใช้คลื่นเเบบเดียวกันกับ HIFU เลยนั่นคือ Focused Ultrasound ลงลึกถึงชั้นผิวเดียวกัน แต่ก็จะเจ็บมาก และใช้เวลานาน หากยิง Ulthera แล้วไม่เจ็บ เป็นได้ 2 กรณี

คือแพทย์ใช้พลังงานต่ำลง หรือฉีดยาชาบล็อคไม่ให้รู้สึก ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ก็จะทำให้ผลจากการทำ Ulthera ได้ผลน้อยกว่าปกติค่า แต่ข้อดีของ Ulthera คือ จะมีหน้าจอเพื่อระบุความลึกของการยิง เพื่อให้ยิงพลังงานลงในชั้น SMAS ได้แม่นยำมากขึ้น แต่ในทางปฎิบัติแล้ว แพทย์ที่ใช้เครื่อง Ulthera จะต้องละสายตามามองหน้าจอในทุกช็อตที่จะยิง และต้องปรับความลึกโดยการกดมือช็อตต่อช็อต ซึ่งจะใช้เวลาต่อช็อตประมาณ 5-6 วินาที เพื่อให้ได้ผลตามทฤษฎี ซึ่งในความจริง แพทย์ส่วนน้อยที่จะยอมเสียเวลามองจอในทุกช็อต ที่จะยิง 600-1000 Shot โดยที่ต้องใช้เวลา 60-90 นาที ทั้งทรมานสายตา และเมื่อยมากค่า แต่หากแพทย์ที่ชำนาญแล้ว ก็อาจจะไม่มองหน้าจอทุกครั้ง ก็จะลดเวลาในการทำลงได้เหลือ 40-60 นาที ซึ่งถ้าแพทย์ทำ Ulthera โดยไม่มองหน้าจอแล้ว ก็แทบจะไม่แตกต่างจากการทำ LINNA HIFU ซึ่งถ้าเทียบความคุ้มค่าในราคาเเละเวลาเเล้วLINNA HIFU จะคุ้มค่าคุ้มราคาคุ้มเวลากว่าค่า 

เครื่อง HIFU 8D ที่ลินนาคลินิก เป็นนวัตกรรม เป็น MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ที่นำข้อดีของคลื่นพลังงานทั้ง 2 แบบมารวมกัน เพื่อให้แพทย์ผู้ทำหัตถการปรับใช้ค่าพลังงานได้ทั้งแบบจุด focus ขนาดเล็ก (0.3-0.5 mm.) และจุด focus ขนาดใหญ่ เพื่อให้คลื่นพลังงานส่งไปยังชั้นผิวที่ต้องการรักษาได้อย่างล้ำลึก แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ และด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด TDT (Thermal Diffusion Technology) ช่วยให้ส่งพลังงานลงไปยังผิวชั้นลึกได้อย่างล้ำลึกและแม่นยำ โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อและผิวบริเวณรอบข้าง ​สุดท้ายนี้ยังเป็นแบบ Single Shot ทำให้การปล่อยพลังงาน เพื่อให้การออกแบบการรักษาของแพทย์เเม่นยำมากขึ้น ลดอาการเจ็บจนทนไม่ได้ และหัวเล็กลงทำให้เข้าบริเวณซอกเล็กๆของใบหน้าได้ดีมากอีกด้วยค่ะ

6. ข้อดี-ข้อเสียของการทำ LINNA HIFU 8D

ข้อดี

ข้อเสีย

7. LINNA HIFU 8D ทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม

สามารถทำ LINNA HIFU 8D ร่วมกับหัตถการอื่นๆได้ เช่น ฟิลเลอร์ ฉีดเมโสแฟต ฉีด/ร้อยไหม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเชนและไวยิ่งขึ้น เช่นบางท่านที่มีร่องแก้มลึกมากๆ แพทย์ก็จะเเนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์หากต้องการผลลัพธ์ทันทีและชัดเจนค่า แนะนำให้พบแพทย์เพื่อออกแบบการรักษาให้เหมาะกับปัญหาใบหน้าของแต่ละคนค่า

HIFU ได้ผลลัพธ์อย่างไร

  • ลดความหย่อนคล้อยของใบหน้า
  • ผิวหนังกระชับอ่อนเยาว์
  • กระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว
  • ลดริ้วรอย
  • ยกคิ้ว
  • กระชับเหนียง และคอ
  • เพิ่มความคมชัดบริเวณแนวสันกราม

ผลของการรักษาอยู่ได้นานแค่ไหน

HIFU เห็นผลทันที 10-20% เห็นผลเต็มที่ 1-2เดือน ทำเสร็จแล้วไปทำงานหรือธุระต่อได้ทันที ไม่มีแผล ไม่ต้องพักหน้า อยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน

แนะนำให้พบเเพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา เพื่อประเมิณใบหน้าว่าต้องใช้กี่ช็อต

แต่ละบริเวณใช้กี่ช็อต

จำนวนช็อตที่ใช้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำให้แพทย์ช่วยประเมิณใบหน้าจริงจะแม่นยำที่สุดค่ะ การใช้ช็อตมากไปอาจจะเบิร์นใบหน้า หรือ น้อยไปอาจจะไม่เห็นผลค่ะ

ทำไมแต่ละที่ใช้ช็อตไม่เท่ากัน

ทำไมต้องทำ HIFU 8D ที่ลินนาคลินิก

8. วิธีการดูแลตัวเองก่อน-หลัง การทำ LINNA HIFU 8D

ก่อนการทำ Hifu

  • ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลยค่า

หลังการทำ Hifu

  • สามารถทาครีมบำรุงผิวหน้าได้ตามปกติ ยิ่งท่านที่มีใบหน้าแห้ง
  • ทานวิตามินที่เสริมคอลลาเจนจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นแบบสองเท่า
  • หากเลี่ยงบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ได้ก็จะดี เพราะเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนัง

9. ทำไมทำ LINNA HIFU 8D เเล้วไม่ค่อยเจ็บ ได้ผลจริงหรือ เครื่องไม่ได้มาตรฐานหรือเปล่า

ต้องบอกก่อนว่า LINNA HIFU 8D เป็นนวัตกรรมล่าสุดจ่าเกาหลี ที่ออกแบบมาเพื่อลดการเจ็บลง เป็นเทคโนโลยี MMFU และปล่อยพลังงานแบบ Single Dot หลักการทำงานของเครื่องไม่เหมือนกันกับเครื่องหัวใหญ่ๆที่ทาบไปที่หน้าที่มีอยู่เยอะมากในท้องตลาด และด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด TDT (Thermal Diffusion Technology) ช่วยให้ความร้อนกระจายได้ดีขึ้น และลดการเจ็บลงมาก การยิงแบบ Single Dot ทำให้เเพทย์ออกเเบบการรักษาได้เเม่นยำมากขึ้น เจ็บน้อยลง ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องแปะยาชา ฉะนั้นการนับจำนวนชอตจะต่างออกไปจากกลุ่ม Macro Focused HIFU โดยสิ้นเชิง เอามาเทียบกันไม่ได้

LINNA HIFU 8D เป็นเครื่องเกรดพรีเมี่ยม มี อย. ไทยและเกาหลี เป็นเครื่องเดียวที่ได้รับรองจากสมาคมแพทย์ผิวหนังเกาหลี เครื่องจะได้มาตรฐานไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าเจ็บหรือไม่เจ็บ เเต่เครื่องที่ใช้เป็นเครื่องแบบไหน ยี่ห้ออะไร มีอย.ไหม เพราะมีหลายท่านบอกว่าที่คลินิกอื่นก็เป็นหัวเล็กเหมือนกัน แต่ทำไมราคาถูกกว่า ต้องบอกว่า เราควรขอดู อย. ของเครื่องด้วย เพราะบางครั้งเครื่องที่ใช้อาจจะไม่ได้มาตรฐาน ไม่มี อย. ข้อเสียจะอยู่ที่ใบหน้าของเราเอง แล้วเราจะยอมแลกไหมกับการประหยัดเงินเพียงไม่เท่าไหร่ 

การทำ HIFU คุณหมอจะพิจรณาเคสต่อเคสว่าปัญหาใบหน้าที่มีต้องแก้ไขอย่างไร เช่นบางท่านอาจจะ ร่องแก้มลึกมาก จากกรพดูกทรุดด้วยอายุมากขึ้น การทำ HIFU อาจได้ผลไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ต้องฉีด Filler ร่วมด้วยจะเห็นผลที่ชัดเจนมากขึ้นค่ะ

ข้อเสียของเครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน

  • จุดของพลังงานจะไม่ focus บางจุดร้อนตรงกลาง บางจุดไม่ร้อน ไม่มีความสม่ำเสมอ ทำให้เห็นผลน้อยลง
  • พลังงานจะไม่เสถียร บางชอตแรง บางชอตเบา แพทย์จึงไม่ใช้พลังงานสูงเพราะชอต ที่แรงเกินไปอาจจะทำให้ผิวไหม้หน้าบวมและอาจโดนเส้นประสาทและทำให้หน้าเบี้ยวได้ การที่หมอใช้พลังงานต่ำลงทำให้ยิงแล้วไม่เจ็บ อาจเห็นผลบ้างแต่ก็จะอยู่ได้ไม่นาน
  • รอบประมวลผลในการปล่อยพลังงานต่ำใช้เวลาในการยิงนานขึ้น แต่ได้ผลเท่าเดิมหรือแทบไม่เห็นผล

การปรับพลังงานขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแพทย์ เทคนิคการยกกระชับของแพทย์ก็สำคัญ เทคนิคของแพทย์ลินนาคลินิกมีความพิเศษ เรียกว่าเทคนิค 8D เนื่องจากหัว HIFU เป็นแบบ Single Shot จะออกเเบบการรักษาได้เแม่นยำกว่าเดิม เนื่องจากเคสเราเยอะมาก แพทย์จะรู้ดีสุดว่าต้องยิงแบบไหนจะเห็นผลมากสุดกับการใช้เครื่องตัวนี้ แพทย์ลินนาคลินิกจะออกแบบการยิง ในใบหน้าของแต่ละท่านแตกต่างกันออกไป เพราะปัญหาที่ไม่เหมือนกัน

การประเมินก่อนการรักษาจากแพทย์สำคัญมาก เพราะใบหน้าบางท่านที่มีไขมันเยอะมากๆ หรือกรามใหญ่มากๆ การทำ HIFU อย่างเดียวอาจไม่เห็นผลเท่าที่คาดหวังไว้ แพทย์จะแนะนำให้ทำหัตรถการอื่นร่วมด้วยจึงจะเห็นผลที่ชัดเจน

ภาพรีวิว ก่อนและหลังทำ

โบท็อก (Botox) VS ร้อยไหมให้หน้าเรียว อย่างไหนดีกว่ากันSculptra vs Juvelook ต่างกันอย่างไร (2)
Scroll to Top