HIFU สุดยอดนวัตกรรมยกกระชับผิวหน้า
เมื่อเวลาผ่านไป ผิวหน้าและบริเวณต่างๆของใบหน้าก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา หลายๆคนมักเกิดความกังวลกับเรื่องของความหย่อนคล้อยบนใบหน้า ผิวหน้าที่มีริ้วรอย หรือไม่สดใสเหมือนเมื่อก่อน หลายคนก็เริ่มหาวิธีแก้ปัญหาต่างๆเหล่านั้น ในการแก้ปัญหาก็จะมีทั้งการใช้ครีมบำรุงเพื่อดูแลรักษาผิวหน้า แต่วิธีนี้จะใช้เวลานาน และมีอีกหลายวิธีที่จะสามารถช่วยในการยกกระชับใบหน้าได้ในระยะเวลาที่รวดเร็วขึ้น จะมีทั้งการวิธีฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อกซ์ ร้อยไหม รวมถึงการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้า ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็จะล้วนแต่ต้องแลกกับความเจ็บปวดทั้งนั้น แต่จะมีอีก 1 วิธีที่จะทำให้เราสามารถมีใบหน้าที่กระชับและอ่อนเยาว์ขึ้น โดยที่เราไม่ต้องกังวลเรื่องความเจ็บปวดใดๆทั้งสิ้น นั่นก็คือการทำ Hifu นั่นเองค่ะ
ถือว่าเป็นเทคโนโลยีตอบโจทย์มากๆเลยนะคะ สำหรับผู้ที่อยากมีใบหน้าที่กระชับและอ่อนเยาว์ขึ้น แต่กลัวเจ็บ กลัวเข็ม กลัวการผ่าตัด ทางเลือกที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดในตอนนี้ ก็คงต้องยกให้กับนวัตกรรมใหม่ที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากในวงการแพทย์ เป็นเทคโนโลยีอัลตร้าซาวด์ที่ได้ถูกนำมาใช้ในการรักษาทางการแพทย์มานานกว่า 50 ปี และมีการใช้ Hifu ในการยกกระชับใบหน้าโดยแพทย์ผิวหนัง ทั่วโลกมามากกว่า 3,000 ราย ซึ่งพบว่ามีความปลอดภัยสูง และเป็นที่ยอมรับในเรื่องของประสิทธิภาพและผลของการรักษาเป็นอย่างมาก หลายคนอาจมีคำถามว่า hifu ข้อดีมีอะไรบ้าง ต้องขอบอกเลยว่า ตัวนี้จะสามารถตอบโจทย์ของผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องเจ็บได้ดีที่สุด เพราะวิธีนี้นอกจากจะไม่เจ็บแล้วยังช่วยลดความหย่อนคล้อย เพิ่มความกระชับและอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าของคุณได้อย่างรวดเร็วและให้ผลลัพธ์ที่ดี เมื่อลองเปรียบเทียบกับการยกกระชับใบหน้าด้วยการฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อกซ์ การร้อยไหม หรือการผ่าตัดศัลยกรรมแล้ว การทำ Hifu นั้นจะมีความน่าสนใจมากกว่าค่ะ เพราะการรักษาด้วยวิธีนี้จะไม่มีรอยแผลที่จะทำให้เกิดแผลเป็น ไม่มีรอยแดง ไม่เจ็บจากการใช้เข็มหรือการผ่าตัดศัลยกรรม และผลลัพธ์ที่ได้จะให้ความเป็นธรรมชาติมากกว่าด้วยค่ะ ระหว่างรักษาผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกอุ่นๆ สบายผิว คล้ายๆกับการทำทรีทเมนต์บำรุงผิวหน้า หลังจากทำ Hifu เสร็จแล้ว สามารถแต่งหน้าได้เลยไม่ต้องรอพักฟื้นหน้า เป็นการรักษาที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีและเป็นที่ยอมรับมากขนาดนี้ ขอแนะนำให้รู้จักกับเทคโนโลยีที่จะช่วยให้เรามีใบหน้าที่กระชับและอ่อนเยาว์ขึ้นได้โดยไม่ต้องแลกกับความเจ็บปวดใดๆเลย Hifu คืออะไร ไปรู้จักกันเลยค่ะ
HIFU เป็นชื่อย่อมาจาก High Intensity Focus Ultrasound คือการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยในการยกกระชับใบหน้า โดยการใช้ความร้อนจากคลื่นอัลตร้าซาวด์ที่มีพลังงานความถี่สูง (ความร้อนจากคลื่นอัลตร้าซาวด์นี้ จะไม่สามารถทำให้เกิดความแสบหรือรอยไหม้กับผิวหนังของเราได้) ที่สามารถทำลายเนื้อเยื่อของผิวหนังได้ลึกถึงชั้น SMAS (เป็นชั้นลึกสุดของระดับชั้นผิวหนัง หรือชั้นเดียวกันกับการผ่าตัดศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า) และสามารถปล่อยคลื่นให้โฟกัสเฉพาะจุดได้ เพื่อจะช่วยเน้นให้ในบริเวณเนื้อเยื่อผิวหนังที่หย่อนยานนั้น เกิดความฟื้นฟูโดยการหดตัวที่ชั้น SMAS ขนาดเล็ก จะคล้ายการเย็บเนื้อ แต่วิธีนี้จะมีความละเอียดมากกว่าการร้อยไหมนะคะ เพราะคลื่นอัลตราซาวนี้จะสามารถทำงานแบบโฟกัสได้ครอบคลุมบริเวณพื้นผิวได้มากกว่าการร้อยไหม แล้วยังช่วยกระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์เซลล์ ทำให้เกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวหนังจะเกิดการเรียงตัวใหม่ ทำให้ผิวที่เกิดการสร้างใหม่มีความยกกระชับและดูอ่อนเยาว์ขึ้น รวมถึงช่วยกระตุ้นให้เลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดีขึ้นอีกด้วยคะ โดยจะมีการขับของเสียออกมาในรูปของเหงื่อและระบบน้ำเหลือง มีการผลัดเซลล์ผิวเก่าออก ทำให้ผิวหน้าของเรามีความสดใสเปล่งปลั่งขึ้นทันทีอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ
ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากการทำ Hifu คือ เราจะมีผิวที่กระชับดูอ่อนเยาว์ ผิวมีความเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยต่างๆบนใบหน้าลดเลือนลง แนวคิ้วดูยกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บริเวณหนังตาตึงกระชับขึ้นทำให้ดูตากลมโตขึ้น รอยลึกบริเวณร่องแก้มดูตื้นขึ้น ไขมันส่วนเกินบนใบหน้าลดลง ไขมันบริเวณใต้คางลดลง ความหย่อนคล้อยในส่วนต่างๆของใบหน้าลดลง ทำให้มีใบหน้าที่เรียวขึ้น หลังจากทำการรักษาเสร็จเราจะสามารถจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนใน 10-30 % จากนั้นจะค่อยๆเห็นความเปลี่ยนแปลงของผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้ชัดขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 2-3 เดือน เนื่องจากเป็นช่วงระยะเวลาในการสร้างคอลลาเจนและการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ของผิวหนัง ที่มีความแข็งแรงและเสร็จสมบูรณ์ ในผลการรักษา 1 ครั้ง จะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน และจะให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นเมื่อทำการรักษาอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อปี (ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละสภาพผิวของบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการรักษาด้วยนะคะ)
ในการทำ Hifu นั้นไม่ใช่แค่เพียงรักษาในบริเวณของใบหน้าได้เพียงอย่างเดียวนะคะ แต่ยังสามารถรักษาได้ทั้งในส่วนของคอ และบริเวณกรอบหน้าได้อีกด้วย ซึ่งส่วนนี้จะเป็นบริเวณที่มักจะมีการเกิดริ้วรอยได้ง่ายและมองเห็นได้ชัดที่สุด การทำ Hifu จะเน้นการกระชับผิวและเพิ่มความเนียนนุ่มให้กับผิวเป็นพิเศษ จะเหมาะกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 25-45 ปี เพราะเนื้อเยื่อผิวหนังจะมีริ้วรอยต่างๆและความหย่อนคล้อยยังไม่มาก ทำให้สามารถรักษาได้ง่ายทำให้เห็นผลได้ชัดกว่าค่ะ
ส่วนผู้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไปก็สามารถทำได้การรักษาด้วย Hifu ได้เช่นกันค่ะ ซึ่งถ้าถามว่าทำกี่ครั้งถึงเห็นผล ขอตอบว่าต้องทำการรักษามากกว่า 1 รอบนะคะ เนื่องจากสภาพผิวในช่วงวัยนั้นๆด้วยค่ะ ใครที่กลัวเจ็บก็เลือกวิธีนี้ได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครที่ไม่กังวลเรื่องความเจ็บก็ขอแนะให้ทำ Ulthera, Thermage จะเหมาะกับสภาพผิวในช่วงวัยมากกว่าค่ะ เพราะ Ulthera, Thermage จะช่วยสลายไขมันส่วนเกินและยกกระชับใบหน้าได้ดีกว่าเลเซอร์ตัวอื่นๆ แต่ตัว Ulthera, Thermage นั้นก็จะให้ความรู้สึกเจ็บด้วยเช่นกันค่ะ จะมีแค่ตัว Hifu เท่านั้นค่ะที่จะไม่ต้องทนเจ็บ ดังนั้นจะให้มีความรู้สึกเจ็บมากกว่าการทำ Hifu ค่ะ ดังนั้นถ้าใครรู้ตัวว่าเป็นคนขี้เจ็บ หรือทนเจ็บไม่ได้ขอแนะนำให้ทำ Hifu จะตอบโจทย์ได้ดีกว่าค่ะ
นอกจากนี้ผู้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อกซ์ หรือฉีดไหม ก็สามารถทำ Hifu ได้เช่นกันค่ะ เนื่องจากเทคโนโลยีชนิดนี้จะส่งผลต่อเซลผิวชั้นลึก ซึ่งจะเป็นคนละชั้นกับกลุ่มที่ ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อกซ์ หรือฉีดไหม แต่ควรเว้นระยะห่างหลังจากนั้นประมาณ 3 สัปดาห์นะคะ
ระยะเวลาของการรักษา
ระยะเวลาของการรักษาในแต่ละครั้งจะ โดยปกติทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 30-40 นาที หรืออาจขึ้นอยู่กับแต่ละสภาพผิวหรือบริเวณที่ต้องการรักษา ตามความต้องการของผู้เข้ารับการรักษาหรือแพทย์ค่ะ
ผู้ที่เหมาะสำหรับการทำ Hifu คือ
- ผู้ที่อยากยกระชับใบหน้า แบบไม่ต้องเจ็บ ไม่อยากรอการพักฟื้นนานๆ
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าดูใหญ่ เนื่องจากไขมันส่วนเกินในบริเวณใบหน้ามีเยอะ
- ผู้ที่มีปัญหาหนังตาบนตก หนังตาล่างหย่อนยาน
- ผู้ที่มีปัญหาหางคิ้วตก ไม่เป็นรูปทรง
- ผู้ที่มีปัญหารอยลึกบริเวณร่องแก้ม
- ผู้ที่มีปัญหาคางสองชั้น
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยต่างๆในบริเวณใบหน้า
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส
การดูแลหลังการรักษาด้วยการทำ Hifu
หลังการรักษา ผู้เข้ารับการรักษาจะมีความรู้สึกว่าพื้นผิวในบริเวณที่ทำการรักษา จะตึงขึ้นและดูอิ่มน้ำขึ้นเล็กน้อยนะคะ แต่จะค่อยๆกลับสู่ภาวะปกติในระยะเวลา 1-2 วัน แต่ยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องมีการพักฟื้นผิวค่ะ แนะนำให้บำรุงผิวและทาครีมกันแดดควบคู่กันไป และดูและผิวตามที่แพทย์แนะนำด้วยนะคะ