เปรียบเทียบ Plasmapheresis VS EBOO Therapy โปรแกรม ฟื้นฟูสุขภาพแบบไหนเหมาะกับคุณ?

ในยุคปัจจุบันที่ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ปริมาณไขมันในเลือดเพิ่มสูงขึ้น และมีสารพิษตกค้างภายในร่างกายโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่เกิดจากพฤติกรมการรับประทานอาหาร ยาและสารเคมี มลภาวะในสิ่งแวดล้อม รวมถึงเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เมื่อภายในเลือดเต็มไปด้วยไขมันและของเสียก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน ด้วยเหตุนี้ ผู้คนจำนวนมากจึงเริ่มหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการบำบัดในรูปแบบของการแพทย์ทางเลือก (Alternative Medicine) ที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งยาเพื่อลดภาวะข้างเคียงในระยะยาว อย่างการทำ Plasmapheresis และ EBOO/EBO2 Therapy ซึ่งทั้งสองวิธีมีแนวทางการบำบัดและคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน Plasmapheresis หรือ EBOO Therapy ควรเลือกทำแบบไหน? ข้อดี-ข้อเสีย ของการฟื้นฟูร่างกายแต่ละรูปแบบเป็นอย่างไร บทความนี้จาก Linna Clinic (ลินนา คลินิก) พร้อมนำเสนอข้อมูลเปรียบเทียบอย่างครบถ้วน เพื่อช่วยให้ผู้ที่สนใจใช้เป็นข้อมูลเพื่อเลือกแนวทางการบำบัดได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย

Table of Contents

Plasmapheresis คืออะไร?

Plasmapheresis คือ กระบวนการทำความสะอาดเลือดด้วยการแยกพลาสมา (Plasma) ออกจากเซลล์เม็ดเลือดโดยใช้เครื่องกรองที่มีความจำเพาะ เพื่อกำจัดหรือลดปริมาณสารที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ไขมันเลว (LDL) ไตรกลีเซอไรด์ สารกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ หรือโปรตีนที่ก่อให้เกิดการอักเสบ จากนั้นจึงส่งพลาสมาที่ผ่านการกรอง รวมถึงเซลล์เม็ดเลือดกลับเข้าสู่ร่างกายอีกครั้ง (การส่งกลับขึ้นอยู่กับรูปแบบของ Plasmapheresis ที่ใช้) การบำบัดด้วยวิธีนี้จัดเป็นหนึ่งในแนวทางของระบบการบำบัดรักษาโรคเพื่อดูแลสุขภาพอีกแนวนอกจากการใช้ยา และมักนำมาใช้กับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบเลือด โรคหลอดเลือด รวมถึงโรคทางระบบภูมิคุ้มกัน

ทั้งนี้ ในทางการแพทย์สามารถแบ่งกระบวนการทำความสะอาดเลือดแบบ Plasmapheresis ออกเป็น 2 แบบหลักๆ ได้แก่ 

1. Plasmapheresis แบบทั่วไป (Therapeutic Plasma Exchange -TPE) เป็นการกรองพลาสมาออกจากเลือดแล้วแทนที่ด้วยของเหลวทดแทน เช่น อัลบูมิน หรือพลาสมาจากผู้บริจาค

2. Double Filtration Plasmapheresis (DFPP) เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อยอดจาก Plasmapheresis โดยใช้ระบบกรอง 2 ชั้น เพื่อแยกพลาสมาออกจากเลือด หลังจากนั้นจึงส่งพลาสมาไปกรองอีกขั้นตอนเพื่อแยกไขมันในเลือด สารพิษ รวมถึงโปรตีนที่ไม่จำเป็นออก แล้วนำพลาสมาที่เหลือ (ซึ่งมีโมเลกุลเล็กกว่า) เติมกลับเข้าสู่ร่างกายโดยไม่ต้องใช้ของเหลวทดแทน จึงเป็นวิธีที่ช่วยลดโอกาสการสูญเสียพลาสมารวมถึงโปรตีนสำคัญได้ดีกว่าแบบแรก

Double Filtration Plasmapheresis คืออะไร? มีกี่แบบ

Double Filtration Plasmapheresis หรือ DFPP เป็นรูปแบบหนึ่งของการทำความสะอาดเลือด (Plasmapheresis) โดยใช้เทคโนโลยีการกรอง 2 ชั้น (Double Filter System) เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการแยกและกำจัดสารที่เป็นอันตรายออกจากพลาสมา เช่น ไขมันเลว (LDL) ไตรกลีเซอไรด์ สารก่อภูมิแพ้ รวมถึงโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับภาวะอักเสบเรื้อรัง จากนั้นจึงส่งพลาสมาที่มีขนาดโมเลกุลเล็กกว่ากลับเข้าสู่ร่างกาย โดยไม่ใช้ของเหลวทดแทนเหมือนการฟอกเลือดแบบทั่วไป การทำ DFPP สามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ตามระดับอัตราการไหลของเลือดและพลาสมา (Blood flow and Plasma flow rate) ในขั้นตอนการบำบัด ได้แก่

1. DFPP แบบ Low Flow เป็นการกรองพลาสมาผ่านเส้นเลือดดำโดยไม่จำเป็นต้องเจาะเส้นเลือดแดง จึงสามารถทำได้ในสถานพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันในเลือดและภาวะอักเสบในร่างกายอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม ผู้รับบริการส่วนใหญ่ที่มีประสบการณ์บำบัดมาก่อนให้ความเห็นว่าการบำบัดด้วย EBOO Therapy สร้างประสบการณ์ และผลลัพธ์หลังการบำบัดที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับการทำ Double Filtration Plasmapheresis แบบ Low Flow

2. DFPP แบบ High Flow เป็นกระบวนการฟอกพลาสมาที่ใช้อัตราการไหลของเลือดสูง โดยต้องเจาะเข้าหลอดเลือดใหญ่บริเวณลำคอเพื่อเพิ่มแรงดันและประสิทธิภาพในการกรอง เหมาะสำหรับผู้ที่มีระดับไขมันในเลือดสูงมาก หรือมีภาวะอักเสบรุนแรงและต้องการผลลัพธ์เร่งด่วน โดยการบำบัดด้วยวิธีนี้ต้องดำเนินการในโรงพยาบาลหรือศูนย์การแพทย์ที่มีเครื่องมือและทีมแพทย์เฉพาะทางดูแลอย่างใกล้ชิดเท่านั้น 

โปรแกรม Double Filtration Plasmapheresis เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง ทั้งไขมันเลว (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ หรือมีภาวะดื้อยาลดไขมัน
  • ผู้ที่มีภาวะเลือดข้น เลือดหนืดผิดปกติ 
  • ผู้ที่เป็นโรคไต หรือผู้ที่เคยปลูกถ่ายอวัยวะ
  • ผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ 
  • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน
  • ผู้มีภาวะโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เช่น SLE, รูมาตอยด์

อย่างไรก็ตาม การบำบัดแบบ Double Filtration Plasmapheresis เป็นเพียงแนวทางการบำบัดเพื่อช่วยฟื้นฟูสุขภาพและไม่สามารถใช้ทดแทนวิธีการรักษาหลัก รวมถึงอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่ายหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด ผู้ที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง หรืออยู่ระหว่างการรักษาเฉพาะทาง เพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มขั้นตอนการบำบัด

ข้อดี-ข้อเสีย ของโปรแกรม Double Filtration Plasmapheresis

ข้อดี

  • ใช้ระบบกรอง 2 ขั้นตอน ช่วยคัดแยกเฉพาะสารไม่พึงประสงค์ เช่น ไขมันเลว แอนติบอดีผิดปกติ และสารพิษออกจากพลาสมา โดยยังคงเก็บโปรตีนที่จำเป็นไว้ได้มากกว่าการฟอกเลือดแบบทั่วไป
  • ช่วยลดไขมันในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะไขมันเลว (Low-Density Lipoprotein :LDL) และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ หลอดเลือด ความดันสูง รวมถึงไขมันพอกตับ
  • ช่วยลดระดับสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย ช่วยให้เลือดสะอาดมากขึ้น
  • ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ร่างกายแข็งแรงขึ้น ลดโอกาสติดเชื้อ
  • ไม่ต้องใช้ยา หรือสารเคมีจากภายนอก ลดความเสี่ยงของอาการแพ้หรือผลข้างเคียง

ข้อเสีย

  • เป็นกระบวนการบำบัดที่มีความซับซ้อน จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทางและทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง และควรทำในสถานพยาบาลที่มีอุปกรณ์พร้อม เช่น ในโรงพยาบาล
  • ใช้ระยะเวลาในการบำบัดนาน โดยอาจกินเวลา 1.5-2 ชั่วโมง/ครั้ง จึงอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด 
  • ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับสภาวะสุขภาพของแต่ละบุคคล
  • ค่าใช้จ่ายสูง เมื่อเทียบกับการบำบัดสุขภาพแบบอื่น
  • อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงในบางราย เช่น วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด คลื่นไส้ หรือความดันตกในระหว่างหรือหลังบำบัด

 

EBOO/EBO2 Therapy คืออะไร?

EBOO/EBO2 Therapy หรือ Extracorporeal Blood Oxygenation and Ozonation เป็นกระบวนการกรองเลือดและล้างสารพิษโดยการนำเลือดออกจากร่างกาย ผ่านกระบวนการกรองผ่านไส้กรองจากนั้นเติมออกซิเจนและโอโซนบริสุทธิ์ แล้วนำกลับเข้าสู่ร่างกายอย่างช้าๆ ผ่านทางเส้นเลือดดำซึ่งเป็นระบบปิด เพื่อเพิ่มระดับออกซิเจนในเลือด กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และกำจัดของเสีย จุลินทรีย์ และสารพิษตกค้างที่สะสมอยู่ในร่างกาย

หลักการทำงานของ EBOO/EBO2 Therapy

  • นำเลือดออกจากร่างกายโดยใช้เข็มเจาะเส้นเลือดดำใหญ่ที่แขน 2 ข้าง (ข้างหนึ่งเพื่อดูดออก อีกข้างเพื่อส่งกลับ) เลือดจะถูกส่งผ่านทางสายยางไปยังไส้กรองปลอดเชื้อเพื่อกรองเอาของเสียออกจากเลือด 
  • เลือดไหลผ่านอุปกรณ์ที่เติมก๊าซโอโซน (O₃) และออกซิเจนบริสุทธิ์เข้าไปในเลือดในปริมาณที่ปลอดภัย โดยโอโซนที่ถูกเติมเข้าไปในเลือดจะแตกตัวออกเป็นออกซิเจนและสารประกอบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโอโซน 
  • เลือดที่ผ่านกระบวนการจะถูกส่งกลับเข้าสู่ร่างกายอย่างช้าๆ และต่อเนื่อง โดยทุกขั้นตอนถูกควบคุมเป็นระบบปิด จึงปราศจากการปนเปื้อนจากภายนอก

ผลลัพธ์หลังการทำ EBOO/EBO2 Therapy จะช่วยบรรเทาความรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง 

โปรแกรม EBOO/EBO2 Therapy เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีความดันสูง
  • ผู้ที่มีอาการไม่พึงประสงค์หลังจากการเป็น COVID-19 หรือหลังจากได้รับวัคซีน
  • ผู้ที่มีอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง เหนื่อยง่าย ไม่มีแรงแม้พักผ่อนเพียงพอ
  • ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ เช่น SLE หรือรูมาตอยด์
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือด ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี
  • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน 
  • ผู้ที่ติดเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรียบ่อยครั้ง
  • ผู้ที่มีอาการปวดข้อ ปวดกระดูก หรือภาวะข้อเสื่อม
  • ผู้ที่อยู่ระหว่างการพักฟื้นหรือฟื้นตัวหลังเจ็บป่วย
  • ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และเสริมความสมดุลให้ร่างกายแบบองค์รวม

อย่างไรก็ตาม EBOO/EBO2 Therapy เป็นเพียงแนวทางการบำบัดเพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูสุขภาพ และไม่สามารถใช้ทดแทนวิธีการรักษาหลักทางการแพทย์ได้ ผู้ที่สนใจควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรืออยู่ระหว่างการรักษา เพื่อให้สามารถวางแผนการบำบัดได้อย่างเหมาะสมกับสภาวะสุขภาพของแต่ละบุคคล

ข้อดี-ข้อเสียของโปรแกรม EBOO/EBO2 Therapy

ข้อดี

  • ฟื้นฟูร่างกายเชิงลึกด้วยการเติมออกซิเจนและโอโซนเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง ช่วยเพิ่มพลังงานระดับเซลล์ ส่งผลให้รู้สึกสดชื่น ลดอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง และปรับสมดุลของระบบต่างๆ ภายในร่างกาย
  • ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานอย่างสมดุล เหมาะกับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ภาวะอักเสบเรื้อรัง หรืออยู่ระหว่างการรักษาโรคเรื้อรังและมะเร็ง
  • ช่วยขจัดสารพิษตกค้าง โลหะหนัก และสารอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมฟื้นฟูระบบไหลเวียนเลือดให้ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย
  • ใช้เวลาในการบำบัดประมาณ 45-60 นาที/ครั้ง ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น

ข้อเสีย

  • ต้องทำโดยผู้ที่มีประสบการณ์สูง เครื่องมือที่ใช้ได้มาตรฐาน สามารถควบคุมปริมาณโอโซนที่ต้องใช้เพื่อการบำบัดได้อย่างแม่นยำ เหมาะสมกับสภาวะสุขภาพของผู้เข้ารับบำบัดแต่ละบุคคล
  • การทำ EBOO/EBO2 Therapy ไม่สามารถคัดกรองไขมันออกได้ในปริมาณมากเท่ากับการทำ DFPP 1 ครั้ง จึงอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาเฉพาะทางในระดับลึก
  • อาจไม่เหมาะกับผู้มีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด ผู้เข้ารับบริการควรแจ้งประวัติการรักษาให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
  • ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้โอโซน และไม่แนะนำสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์

Double Filtration Plasmapheresis (DFPP) VS EBOO/EBO2 Therapy ควรเลือกทำแบบไหนดี?

ถึงแม้ว่าทั้ง 2 โปรแกรมเป็นการฟอกเลือดเพื่อช่วยฟื้นฟูสุขภาพเช่นเดียวกัน แต่การเลือกทำควรพิจารณาจากปัญหาสุขภาพ และผลลัพธ์ที่คาดหวังหลังเข้ารับการบำบัดของแต่ละบุคคล 

  • Double Filtration Plasmapheresis (DFPP) อาจเหมาะสมสำหรับผู้ที่มี ภาวะไขมันในเลือดสูง ภาวะอักเสบเรื้อรัง หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานผิดปกติ เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง (Autoimmune Disease) หรือมีแอนติบอดีในเลือดเกินค่ามาตรฐาน เนื่องจากการทำ DFPP สามารถคัดกรองเอาสารจำเพาะ ได้แก่ ไขมันเลว ไตรกลีเซอไรด์ สารก่ออักเสบ และโปรตีนส่วนเกินออกจากพลาสมาได้โดยตรง
  • EBOO/EBO2 Therapy อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า สำหรับผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เช่น SLE หรือรูมาตอยด์ รวมถึงผู้ที่มีอาการอ่อนเพลียเรื้อรังหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อภาวะอักเสบเรื้อรังในร่างกาย จุดเด่นของการบำบัดด้วย EBOO Therapy ไม่ได้มีเพียงแค่การกรองเอาคราบพลัค สารพิษ หรือของเสียออกจากกระแสเลือดเท่านั้น แต่ยังช่วยเติมออกซิเจนและโอโซนบริสุทธิ์เข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตโดยตรง ช่วยล้างหลอดเลือดให้สะอาดขึ้น เพิ่มออกซิเจนให้กับเซลล์เม็ดเลือดแดง ส่งผลดีต่อการฟื้นฟูพลังงาน และกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตาม อัตราการกรองของเสียต่อครั้งอาจน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการทำ DFPP แต่ EBOO/EBO2 Therapy มีค่าใช้จ่ายที่ย่อมเยา และมอบประสบการณ์การบำบัดที่ผ่อนคลายมากกว่า

ในบางกรณี แพทย์อาจพิจารณาให้ใช้ทั้งการบำบัดแบบ DFPP และ EBOO/EBO2 Therapy ควบคู่กัน โดยอ้างอิงจากผลวิเคราะห์เลือด ภาวะสุขภาพ และผลลัพธ์ที่ผู้เข้ารับบริการคาดหวัง ภายใต้แผนการบำบัดเฉพาะบุคคล (Personalized Protocol) เพื่อให้แผนการบำบัดครอบคลุม ตรงจุด และมีความปลอดภัย

สรุป

การบำบัดร่างกายด้วยวิธี Double Filtration Plasmapheresis (DFPP) และ EBOO Therapy เป็นวิธีการทำความสะอาดเลือดเพื่อฟื้นฟูร่างกายซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน การเลือกใช้วิธีใดขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัย ผู้เข้ารับบริการจึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและแนะนำวิธีการบำบัดที่เหมาะสม สนใจบำบัดร่างกายโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์มากกว่า 13 ปีและผ่านเคสบำบัดจริงรวมกว่า 25,000 เคส สามารถนัดจองคิวแพทย์และปรึกษาลินนาคลินิกได้ที่เบอร์ 063-609-8888 หรือทางไลน์ @linnaclinic ค่ะ

Related Articles

เติมไขมัน หน้าเด็ก เสริมความอ่อนเยาว์ ย้อนวัยได้ทันตา

หนึ่งในหัตถการยอดนิยม ที่ช่วยให้ผู้ทำหัตถการมีใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีอายุ หรือย่างเข้าสู่วัย 30 ปี ขึ้นไป ที่เริ่มรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มมีความหย่อนคล้อย ผิวพรรณดูไม่เปล่งปลั่งดังเดิม คือ การเติมไขมันหน้า อีกหนึ่งเทคนิคที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก การเติมไขมันคืออะไร? การเติมไขมันหน้าเด็ก (Fat Grafting / Fat Transfer) คือ กระบวนการนำไขมันส่วนเกินจากร่างกายของเราเอง เช่น จากบริเวณหน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก มา ฉีดเติมเต็มลงบนใบหน้า เพื่อช่วยแก้ปัญหาใบหน้าตอบ แก้มตอบ ร่องลึก หรือริ้วรอยที่ทำให้หน้าดูมีอายุ ให้ใบหน้ากลับมาดูอิ่มฟูและอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทำไมการเติมไขมันช่วยให้หน้าเด็กลง? การเติมไขมันช่วยให้หน้าเด็กลงได้เพราะ เซลล์ไขมันมีคุณสมบัติในการเติมเต็มและฟื้นฟูผิว โดยตรง ซึ่งช่วยแก้ปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ เช่น ความหย่อนคล้อย ร่องลึก หรือความแบนของใบหน้า โดย เพิ่มความอิ่มฟูของผิว: ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ ไม่ตอบหรือแบนเกินไป เมื่ออายุมากขึ้น ไขมันบนใบหน้าจะค่อยๆ สลายตัว การเติมไขมันจึงช่วยเพิ่มปริมาณไขมันในจุดที่ขาดหาย ทำให้ใบหน้ากลับมาดูอิ่มฟูและเต่งตึงมากยิ่งขึ้น ลดริ้วรอยและร่องลึก: ร่องแก้ม ร่องน้ำตาดูลดลง เมื่อผิวสูญเสียไขมันและคอลลาเจน

What is Plaque X Treatment? Can it really clear fat from your blood? Is it dangerous?

Blood vessels are an important component of the circulatory system. They function as a pathway for transporting blood and nutrients to organs throughout the body. However, as we age and various risk factors occur, fat and calcium build up on blood vessel walls, forming “plaque.” This is the main culprit that narrows blood vessels, causing

FAQs about EBOO Therapy: Common Questions Before Deciding to Proceed

EBOO Therapy (Extracorporeal Blood Oxygenation and Ozonation) is a therapy that uses medical grade filter to elimite waste and toxins in your blood and adding medical ozone into your blood, before safely returning it to the body. This process is notable for helping to eliminate toxins, increase oxygen in the blood, and stimulate the immune

Scroll to Top