HIFU เจ็บไหม

HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน

Table of Contents

แต่หลายคนก็สงสัยว่า HIFU เจ็บไหม

คำตอบก็คือ เจ็บ แต่เจ็บในระดับที่ทนได้ และความเจ็บขึ้นอยู่กับ Skin Tolerance ของแต่ละคนและยี่ห้อเครื่องที่ใช้ด้วย ส่วนใหญ่แล้วคลินิกจะทายาชาก่อนทำ HIFU เพื่อช่วยลดความเจ็บลง ระหว่างทำ HIFU จะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆขึ้นได้บางจุด แต่ละครั้งที่ยิงคลื่นอัลตราซาวด์จะรู้สึกอุ่นๆ ใต้ผิว และอาจรู้สึกเมื่อยได้หลังทำเสร็จ

ความเจ็บของ HIFU จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

  • ประเภทของเครื่อง HIFU ที่ใช้
  • จำนวนไลน์ที่ยิง
  • ความหนาของชั้นผิวหนัง
  • ความทนเจ็บของแต่ละบุคคล

บางคนอาจจะรู้สึกเจ็บมาก บางคนอาจจะรู้สึกเจ็บน้อย แต่ส่วนใหญ่แล้วคนไข้จะสามารถทนได้และไม่ต้องขอใช้ยาชาเพิ่มเติม

เทคนิคการลดความเจ็บขณะทำ HIFU

มีเทคนิคหลายอย่างที่สามารถช่วยลดความเจ็บขณะทำ HIFU ได้ เช่น

  • ทายาชาบริเวณที่ทำก่อนทำ HIFU
  • เทคนิดการยิงช็อตของแพทย์ เช่นความเร็วในการปล่อยช็อต หรือ ค่าพลังงานที่ใช้ในการยิง และการกระจายพลังงานช็อต

ผลตอบรับจากการทำ HIFU (เจ็บแล้วได้อะไรบ้าง?)

แม้ว่า HIFU จะรู้สึกเจ็บได้บ้าง แต่ก็คุ้มค่าที่จะทำ เพราะ HIFU สามารถช่วยยกกระชับผิว แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย และร่องลึกต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพักฟื้น

นอกจากนี้ HIFU ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวดูเรียบเนียน เปล่งปลั่งขึ้นอีกด้วย

ผลลัพธ์ของ HIFU อยู่ได้นานแค่ไหน?

ผลลัพธ์ของ HIFU ที่ได้มาตรฐานจะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำ HIFU และปัจจัยส่วนบุคคลอื่นๆ เช่น อายุ สภาพผิว และไลฟ์สไตล์ หากอายุมาก ผลอาจอยู่ได้ 4-6 เดือน

ใครที่เหมาะกับการทำ HIFU?

HIFU เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยต่างๆ เช่น

  • ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
  • ร่องแก้มที่เกิดจากการคล้อยของใบหน้า
  • ร่องมุมปาก
  • เหนียง
  • คอหย่อน

ใครที่ไม่เหมาะกับการทำ HIFU?

HIFU ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น

  • ผู้มีโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ผู้มีโรคผิวหนังบางชนิด เช่น ผิวอักเสบ ผิวไหม้แดด
  • ผู้ที่เป็นสิวอักเสบรุนแรง
  • ผู้ที่เพิ่งรับการผ่าตัดในบริเวณที่จะทำ HIFU ไม่เกิน 6 เดือน

หากคุณสนใจทำ HIFU ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำ เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิวและให้คำแนะนำที่เหมาะสม

HIFU เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวที่ได้ผลดี แต่ก็มีความเจ็บในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้วคนไข้จะสามารถทนได้และไม่ต้องขอใช้ยาชาเพิ่มเติม

ที่ LINNA Clinic (ลินนาคลินิก) เรามีนวัตรกรรม HIFU 8D แบบเจ็บน้อยลงจากเครื่องเดิมๆ เพราะมี เทคโนโลยี TDT ที่กระจายพลังงานความร้อนแบบใหม่ ซึ่งผลลัพธ์ก็ชัดเจน และลงลึกถึงชั้น SMAS จริง โดยการออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ ลงช็อตด้วยความแม่นยำ เพื่อยกกระชับใบหน้าของแต่ท่านให้เห็นผลชัดเจนและยาวนาน

สำหรับใครที่สนใจทำ HIFU ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำ เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิวและให้คำแนะนำที่เหมาะสมเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดสำหรับคุณ

HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน

แต่หลายคนก็สยงสัว่า HIFU เจ็บไหม?

คำตอบก็คือ เจ็บ แต่เจ็บในระดับที่ทนได้ และความเจ็บขึ้นอยู่กับ Skin Tolerance ของแต่ละคนและยี่ห้อเครื่องที่ใช้ด้วย ส่วนใหญ่แล้วคลินิกจะทายาชาก่อนทำ HIFU เพื่อช่วยลดความเจ็บลง

ระหว่างทำ HIFU จะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆขึ้นได้บางจุด แต่ละครั้งที่ยิงคลื่นอัลตราซาวด์จะรู้สึกอุ่นๆ ใต้ผิว และอาจรู้สึกเมื่อยได้หลังทำเสร็จ

ความเจ็บของ HIFU จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

  • ประเภทของเครื่อง HIFU ที่ใช้
  • จำนวนไลน์ที่ยิง
  • ความหนาของชั้นผิวหนัง
  • ความทนเจ็บของแต่ละบุคคล

บางคนอาจจะรู้สึกเจ็บมาก บางคนอาจจะรู้สึกเจ็บน้อย แต่ส่วนใหญ่แล้วคนไข้จะสามารถทนได้และไม่ต้องขอใช้ยาชาเพิ่มเติม

เทคนิคการลดความเจ็บขณะทำ HIFU

มีเทคนิคหลายอย่างที่สามารถช่วยลดความเจ็บขณะทำ HIFU ได้ เช่น

  • ทายาชาบริเวณที่ทำก่อนทำ HIFU
  • เทคนิดการยิงช็อตของแพทย์ เช่นความเร็วในการปล่อยช็อต หรือ ค่าพลังงานที่ใช้ในการยิง และการกระจายพลังงานช็อต

ผลตอบรับจากการทำ HIFU (เจ็บแล้วได้อะไรบ้าง?)

แม้ว่า HIFU จะรู้สึกเจ็บได้บ้าง แต่ก็คุ้มค่าที่จะทำ เพราะ HIFU สามารถช่วยยกกระชับผิว แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย และร่องลึกต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพักฟื้น

นอกจากนี้ HIFU ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวดูเรียบเนียน เปล่งปลั่งขึ้นอีกด้วย

ผลลัพธ์ของ HIFU อยู่ได้นานแค่ไหน?

ผลลัพธ์ของ HIFU ที่ได้มาตรฐานจะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำ HIFU และปัจจัยส่วนบุคคลอื่นๆ เช่น อายุ สภาพผิว และไลฟ์สไตล์ หากอายุมาก ผลอาจอยู่ได้ 4-6 เดือน

ใครที่เหมาะกับการทำ HIFU?

HIFU เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยต่างๆ เช่น

  • ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
  • ร่องแก้มที่เกิดจากการคล้อยของใบหน้า
  • ร่องมุมปาก
  • เหนียง
  • คอหย่อน

ใครที่ไม่เหมาะกับการทำ HIFU?

HIFU ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น

  • ผู้มีโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ผู้มีโรคผิวหนังบางชนิด เช่น ผิวอักเสบ ผิวไหม้แดด
  • ผู้ที่เป็นสิวอักเสบรุนแรง
  • ผู้ที่เพิ่งรับการผ่าตัดในบริเวณที่จะทำ HIFU ไม่เกิน 6 เดือน

หากคุณสนใจทำ HIFU ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำ เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิวและให้คำแนะนำที่เหมาะสม

HIFU เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวที่ได้ผลดี แต่ก็มีความเจ็บในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้วคนไข้จะสามารถทนได้และไม่ต้องขอใช้ยาชาเพิ่มเติม

ที่ LINNA Clinic (ลินนาคลินิก) เรามีนวัตรกรรม HIFU 8D แบบเจ็บน้อยลงจากเครื่องเดิมๆ เพราะมี เทคโนโลยี TDT ที่กระจายพลังงานความร้อนแบบใหม่ ซึ่งผลลัพธ์ก็ชัดเจน และลงลึกถึงชั้น SMAS จริง โดยการออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ ลงช็อตด้วยความแม่นยำ เพื่อยกกระชับใบหน้าของแต่ท่านให้เห็นผลชัดเจนและยาวนาน

สำหรับใครที่สนใจทำ HIFU ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำ เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิวและให้คำแนะนำที่เหมาะสมเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดสำหรับคุณ

Related Articles

Juvelook vs Rejuran vs Exosome แต่ละอย่างต่างกันอย่างไร ใครเหมาะกับอะไร

หลายคนมีข้อสงสัยว่า Juvelook  Rejuran และ Exosome ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตอนนี้ เกี่ยวกับเรื่องงานผิว ว่าแต่ละตัวแตกต่างกันอย่างไร เหมาะกับใคร และช่วยเรื่องอะไรบ้าง ได้ดูกันเลยค่ะ Table of Contents Juvelook คืออะไร เหมาะกับใคร Juvelook เป็น Advanced Hybrid PLA Biostimulator ตัวกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใช้ช้นผิวชนิดหนึ่ง ผลิตจากสาร PDLLA (Poly D, L-Lactic Acid) + Non-Crosslinked HA (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ปลอดภัยและย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีผลข้างเคียงต่อผิวของคนเรา ทำหน้าที่เติมเต็มร่องน้ำตา และริ้วรอยรอบดวงตา ริ้วรอยบริเวณลำคอ ผิวกระจ่างใส ปรับรูขุมขนให้กระชับ  ลดเลือนรอยแผลเป็น ลดเลือนรอยแตกบนผิวหนัง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เห็นผลลัพธ์ได้ทันที ปลอดภัย เข้ากันได้ดีกับร่างกาย เติมเต็มอย่างป็นธรรมชาติ สัมพัสเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน ไม่บวม ไม่อักเสบ ไม่ต้องนวด ส่งผลให้ผิวดูอิ่มฟู

7 ประโยชน์ของโบท็อก (Botox) ที่คุณอาจยังไม่รู้

โบท็อก (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของ Botulinum Toxin A ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรีย clostridium botulinum โดยปกติเราจะรู้จักโบท็อกในแง่ของการความงาม ลดริ้วรอย แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าโบท็อกมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย วันนี้หมออยากขอมาพูดถึง 7 ประโยชน์ของโบท็อกที่บางท่านอาจยังไม่รู้กันค่ะ Table of Contents ลดริ้วรอยบนใบหน้า โบท็อก (Botox) สามารถช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าได้ทั้งหมด 4 บริเวณ ดังนี้ บริเวณหน้าผาก: โบท็อก (Botox) สามารถช่วยลดริ้วรอยบริเวณหน้าผากได้ เช่น รอยย่นตรงกลางหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว บริเวณหางตา: โบท็อก (Botox) สามารถช่วยลดริ้วรอยบริเวณหางตาได้ เช่น รอยตีนกา บริเวณระหว่างคิ้ว: โบท็อก (Botox) สามารถช่วยลดริ้วรอยบริเวณระหว่างคิ้วได้ เช่น รอยขมวดคิ้ว บริเวณใต้ตา: โบท็อก (Botox) สามารถช่วยลดริ้วรอยใต้ตาเวลายิ้มและยังช่วยให้ใต้ตาดูสว่างขึ้น ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อก (Botox) ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อก (Botox) ริ้วรอย จะเริ่มเห็นผลภายใน

วิธีใช้เครื่อง HIFU ในการยกกระชับใบหน้ามีดังนี้

 ทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดและแห้ง ทาเจลหล่อลื่นบนใบหน้าบริเวณที่ต้องการทำ HIFU เลือกหัวยิงให้เหมาะกับบริเวณที่ต้องการทำ HIFU วางหัวยิงบนใบหน้าและกดปุ่มเพื่อเริ่มทำ HIFU เคลื่อนหัวยิงไปตามบริเวณที่ต้องการทำ HIFU โดยกดปุ่มยิงแต่ละจุดค้างไว้จนกว่าเสียงติ๊ดจะดังขึ้น ทำซ้ำขั้นตอน 5-6 กับบริเวณอื่น ๆ ที่ต้องการทำ HIFU ระยะเวลาในการทำ HIFU ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและระดับความลึกที่ต้องการยิง โดยปกติจะใช้เวลาแปะยาชาทิ้งไว้ 30 นาที และใช้เวลาทำอีกประมาณ 30-60 นาที หากทำไฮฟู่ที่ ลินนาคลินิก (LINNA CLINIC) ทั่วทั้งใบหน้าระยะเวลาอยู่ที่ 15 นาทีโดยที่ไม่ต้องแปะยาชา หลังทำ HIFU อาจจะมีอาการบวมแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน ผลลัพธ์ของการยกกระชับใบหน้าจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นภายใน 1-3 เดือน และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน  Table of Contents ข้อควรระวังในการทำ HIFU ห้ามทำ HIFU ในบริเวณที่มีแผลเปิดหรืออักเสบ ห้ามทำ HIFU ในบริเวณที่มีโลหะฝังอยู่

Scroll to Top