ฟิลเลอร์มือ แก้ปัญหามือเหี่ยว ฉีดแก้ผิวแห้งกร้าน

ทราบหรือไม่คะว่า “มือ” คืออวัยวะที่สามารถบ่งบอกอายุที่แท้จริงของเราได้อย่างชัดเจนมากที่สุดเพราะในขณะที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการดูแลผิวในส่วนอื่นๆ ให้เต่งตึง กระชับและดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า ลำคอหรือผิวกาย แต่จุดที่เรามักมองข้ามไปคือ “หลังมือ” ที่เมื่อวันเวลาผ่านไปก็จะเริ่มมีปัญหามือเหี่ยว ผิวมือแห้งเสียหยาบกร้าน หลังมือมีเส้นเลือดปูด มองเห็นเส้นเอ็นได้อย่างชัดเจนจนทำให้ผิวมือแก่ มือดูไม่สวย การฉีดฟิลเลอร์มือ จึงนับเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่สามารถฟื้นบำรุงผิวมือให้กลับเนียนนุ่ม เต่งตึง ช่วยลดอายุผิวมือลงได้อย่างรวดเร็วและสร้างผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ฟิลเลอร์มือ ดีจริงไหม ช่วยเรื่องอะไรบ้าง? ฟิลเลอร์มือ ต้องใช้กี่ cc บทความนี้จาก Linna Clinic มีคำตอบ

สารบัญ

ฟิลเลอร์มือคืออะไร

ฟิลเลอร์มือ (Hand Filler) คือ การฉีดสารเติมเต็มผิวประเภทกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid : HA) เข้าสู่ผิวบริเวณหลังมือ ด้วยคุณสมบัติสำคัญของฟิลเลอร์ที่สามารถฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้ยืดหยุ่นแข็งแรงและช่วยเติมความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้เป็นอย่างดี จึงสามารถปรับผิวมือ ผิวหลังมือให้กลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื้นและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ช่วยลดปัญหาผิวมือเหี่ยว มือดูแก่ ลดปัญหาเส้นเลือดปูดและมองเห็นเส้นเอ็นที่มือได้ชัด ทำให้ผิวมือสวยสุขภาพดี มือดูอ่อนวัยอยู่เสมอ เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังทำทันที และสามารถคงผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์มือได้นาน 6-12 เดือน

ฟิลเลอร์มือช่วยอะไรบ้าง

  • ช่วยลดริ้วรอย แก้ปัญหามือเหี่ยวย่น ทำให้ผิวมือดูเรียบเนียนและกระชับได้อย่างรวดเร็ว
  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้ชั้นผิว ทำให้มือกลับมาเนียนนุ่มน่าสัมผัส ลดปัญหาผิวมือแห้งหยาบกร้าน
  • ช่วยลดความเด่นชัดของเส้นเลือดและเส้นเอ็นที่อยู่บริเวณหลังมือ
  • ช่วยทำให้มือดูเปล่งปลั่งกระจ่างใส สีผิวดูสม่ำเสมอ
  • ช่วยเติมเต็มและปรับรูปทรงนิ้วมือให้เรียวสวยมากยิ่งขึ้น สามารถใช้ฟิลเลอร์ฉีดเติมเต็มบริเวณข้อนิ้ว รอยข้อพับ ช่วยลดปัญหากระดูกนิ้วปูด ข้อนิ้วปูด

สาเหตุที่ทำให้มือเหี่ยว แห้งกร้าน

มือนับเป็นอวัยวะที่ถูกใช้งานเพื่อการหยิบจับสิ่งของอยู่แทบจะตลอดเวลา นอกจากนี้ผิวมือยังเป็นบริเวณที่ค่อนข้างบอบบางจึงทำให้เกิดปัญหาผิวมือเหี่ยว แห้งกร้านได้โดยง่าย ซึ่งปัญหาผิวเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

  • อายุเพิ่มมากขึ้น คอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินในชั้นผิวลดน้อยลง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและไม่กระชับ เกิดปัญหาริ้วรอย ผิวเหี่ยวย่นที่สังเกตเห็นได้ง่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณผิวมือที่ผิวค่อนข้างบาง
  • ล้างทำความสะอาดมือมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในยุคปัจจุบันที่ทำให้เราต้องล้างทำความสะอาดมือด้วยสบู่ เจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์แทบจะตลอดทั้งวันจนส่งผลให้น้ำมันตามธรรมชาติที่อยู่บนชั้นผิวลดน้อยลง ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เกิดปัญหามือแห้งลอก มือหยาบกร้าน ในบางรายอาจเกิดอาการแสบหรือคันมือร่วมด้วย
  • แสงแดด มลภาวะ สารเคมีและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งรังสี UV มลภาวะ ฝุ่นควัน สารเคมี และสภาพอากาศที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด
  • มีความชื้นในอากาศต่ำ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพ เกิดปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยตามมา
  • ขาดการบำรุงผิวมือ มือมักเป็นส่วนที่ถูกมองข้ามและขาดการบำรุงอย่างเหมาะสม หลายๆ คนมักไม่ทาครีมบำรุงผิวและครีมกันแดดที่มือ ทำให้มือเหี่ยวย่นและหยาบกร้านมากกว่าผิวส่วนอื่นๆ

ฉีดฟิลเลอร์มือต้องใช้กี่ CC

โดยปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์มือจะเริ่มต้นที่ 1-2 cc ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล หากมือมีรอยเหี่ยวย่นค่อนข้างมากแพทย์อาจปรับเพิ่มปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้เพื่อการรักษาตามความเหมาะสม

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์มือ

เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและลดอาการข้างเคียงหลังการฉีดฟิลเลอร์มือ ผู้เข้ารับการรักษาควรเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์มือ ดังนี้

  • ในกรณีที่มีโรคประจำตัว ต้องกินยาเพื่อรักษาโรคหรือมีประวัติแพ้ยาชา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำการรักษาทุกครั้ง
  • ผู้ที่เคยมีประวัติแพ้ส่วนผสมชนิดใดชนิดหนึ่งที่อยู่ในฟิลเลอร์ เช่น แพ้คอลลาเจน แพ้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แพ้สารลิโดเคน หรือแพ้แบคทีเรีย จะต้องแจ้งข้อมูลให้แพทย์ทราบเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของสารชนิดนั้นๆ
  • งดใช้ยาแก้ปวด ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น ยาแอสไพริน (aspirin) ไอบูโพรเฟน (ibuprofen), ไดโคลฟีแน็ก (diclofenac), นาพร็อกเซน (naproxen) ฯลฯ เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำและรอยห้อเลือดหลังฉีดฟิลเลอร์
  • งดวิตามินหรืออาหารเสริมที่กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและทำให้เลือดหยุดไหลยาก อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น วิตามินอี น้ำมันตับปลา สารสกัดใบแปะก๊วย สารสกัดกระเทียม โสมเกาหลี น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส คอลลาเจน ฯลฯ
  • คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร ผู้ที่มีอาการป่วยเกี่ยวกับหลอดเลือดหรือมีความผิดปกติของเส้นเอ็นบริเวณมือไม่ควรฉีดฟิลเลอร์มือ

การดูแลและข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์มือ

  • สามารถประคบเย็นที่บริเวณมือเพื่อลดอาการปวดบวมแดง หรือรอยช้ำหลังการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งอาการเหล่านี้จะดีขึ้นและหายเป็นปกติเมื่อในช่วง 1-2 วันหลังการรักษา
  • ในช่วง 2 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์มือให้งดทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงเยอะๆ เช่น การออกกำลังกาย การยกของหนักๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยแดงที่แผลฉีด
  • หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลา หมั่นทาครีมกันแดดที่บริเวณมือเป็นประจำเพื่อป้องกันผิวไม่ให้ถูกทำร้ายจากรังสี UV และมลภาวะต่างๆ
  • ห้ามกด นวด บีบหรือคลึงที่บริเวณรอยฉีดเพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนไปจากตำแหน่งที่แพทย์กำหนดเอาไว้ นอกไปจากนี้การใช้มือสัมผัสที่รอยแผลบ่อยๆ อาจทำแผลเกิดอาการอักเสบ บวมแดงหรือติดเชื้อได้
  • หลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวมือสัมผัสกับความร้อนโดยตรงเป็นเวลานาน เช่น การล้างมือด้วยน้ำที่ร้อนเกินไป การกินอาหารปิ้งย่าง การอบซาวน่า การอบเล็บ การทำเลเซอร์ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4-7 วัน เพื่อให้ผิวสามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเต็มที่
  • ดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้น โดยควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์อิ่มฟูได้ทรงสวยและคงผลลัพธ์หลังการรักษาได้นานขึ้น

Related Articles

LINNA Clinic คว้า 2 รางวัลใหญ่จาก PRAEW ICONIC BEAUTY 2025 การันตีความเป็นผู้นำด้าน HIFU 4 ปีซ้อน!!

เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ LINNA Clinic ที่ปีนี้คว้า 2 รางวัลใหญ่จาก PRAEW ICONIC BEAUTY 2025 เมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งถือเป็นโปรเจกต์เรือธงของนิตยสารแพรว ซึ่งจัดต่อเนื่องมาถึงปีที่ 11 และเป็นมาตรฐานสำคัญในการคัดสรรผลิตภัณฑ์และบริการความงามที่ดีที่สุดของไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Icon of Perfection” สะท้อนแนวคิดว่า ความสมบูรณ์แบบไม่ได้มีสูตรสำเร็จ แต่คือความพอใจในแบบของตนเอง โดยในปีนี้ LINNA Clinic ได้รับถึง 2 รางวัลทรงเกียรติ ได้แก่ Hall of Fame รางวัลนี้ถือเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดในงาน PRAEW ICONIC BEAUTY ที่ไม่ได้มอบให้กับทุกแบรนด์ แต่คัดเลือกเฉพาะผู้ที่สามารถรักษามาตรฐานคุณภาพและความน่าเชื่อถือได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน สะท้อนถึงความมั่นคงและความเป็นผู้นำที่แท้จริงในวงการความงาม ปีนี้ LINNA Clinic ได้รับการประกาศเกียรติยศเข้าสู่ Hall of Fame อย่างสง่างาม พร้อมทั้ง คุณว่าน – กุศลิน ลัญจกรกุล ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ LINNA

LINNA CLINIC คว้ารางวัล “Skin Quality Program Award” จากเวที SUDSAPDA BEAUTY AWARDS 2025

อีกหนึ่งก้าวแห่งความภาคภูมิใจของ LINNA Clinic ที่ได้รับรางวัล “Skin Quality Program Award” จากเวที SUDSAPDA BEAUTY AWARDS 2025 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ในปีนี้จัดขึ้นที่ CHANG CANVAS ONE BANGKOK FORUM ใจกลางเมือง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “VIBRANCY & SERENITY” ที่สะท้อนว่าการดูแลตัวเองไม่เพียงสร้างความสดใส แต่ยังเติมเต็มความสงบและความสุขจากภายใน ในปีนี้ LINNA CLINIC ได้รับการยกย่องด้วยรางวัลอันทรงเกียรติ “Skin Quality Program Award” ในหมวด Beauty Clinic (Editor’s Choice) ตอกย้ำจุดยืนของคลินิกด้าน การดูแลสุขภาพผิวแบบองค์รวม ที่ผสมผสานเทคโนโลยีการแพทย์สมัยใหม่เข้ากับศาสตร์การฟื้นฟูสุขภาพเชิงลึก เพื่อสร้างผิวที่แข็งแรง เรียบเนียน และเปล่งประกายอย่างยั่งยืน บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยเหล่าคนดัง แบรนด์ความงามชั้นนำ และผู้ทรงอิทธิพลใน วงการความงาม โดยมีคณะกรรมการผู้ร่วมตัดสินที่นับได้ว่าเป็นแถวหน้าของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น น้องฉัตร –

Testosterone Replacement Therapy (TRT) คืออะไร ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง มีผลข้างเคียงไหม

เทสโทสเตอโรน (Testosterone) ฮอร์โมนเพศชายที่มีบทบาทสำคัญต่อลักษณะความเป็นชาย รวมถึงภาวะสุขภาพร่างกายอีกหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นระดับพลังงานในแต่ละวัน มวลกล้ามเนื้อและกระดูก ความทรงจำ รวมถึงการควบคุมอารมณ์และความรู้สึก แต่เมื่ออายุมากขึ้นประกอบกับปัจจัยบางอย่าง ระดับฮอร์โมนอาจลดลงจนเริ่มส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต การบำบัดทดแทนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรือ Testosterone Replacement Therapy (TRT) จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางฟื้นฟูสุขภาพทางการแพทย์ที่ช่วยปรับสมดุลร่างกายและเสริมความมั่นใจให้คุณผู้ชายกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง บทความนี้จาก LINNA Clinic จะพามาทำความเข้าใจอย่างละเอียด TRT คืออะไร? เหมาะกับใครบ้าง ประโยชน์และความเสี่ยงที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ TRT พร้อมแนวทางการเตรียมตัวก่อน-หลังเข้ารับการบำบัดอย่างเหมาะสม Table of Contents Testosterone คืออะไร Testosterone หรือ เทสโทสเตอโรน คือฮอร์โมนเพศชายที่ผลิตจากอัณฑะ (Testis) มีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดลักษณะทางเพศชาย เช่น เสียงแหบทุ้ม การมีลูกกระเดือก ไหล่กว้าง ขนตามร่างกาย การสร้างกล้ามเนื้อและกระดูกที่แข็งแรง นอกจากนี้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนยังเกี่ยวข้องกับการควบคุมความต้องการทางเพศ (libido) การผลิตอสุจิ ระดับพลังงานในชีวิตประจำวัน รวมถึงการทำงานของสมองและอารมณ์ แต่เมื่ออายุมากขึ้นประกอบกับปัจจัยเสื่อมอื่นๆ เช่น ความผิดปกติทางพันธุกรรม การติดเชื้อ การบาดเจ็บหรือการผ่าตัด พฤติกรรมการใช้ชีวิต

Shopping Cart
Scroll to Top