โบท็อก (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของ Botulinum Toxin A ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรีย clostridium botulinum โดยปกติเราจะรู้จักโบท็อกในแง่ของการความงาม ลดริ้วรอย แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าโบท็อกมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย วันนี้หมออยากขอมาพูดถึง 7 ประโยชน์ของโบท็อกที่บางท่านอาจยังไม่รู้กันค่ะ
Table of Contents
ลดริ้วรอยบนใบหน้า
โบท็อก (Botox) สามารถช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าได้ทั้งหมด 4 บริเวณ ดังนี้
- บริเวณหน้าผาก: โบท็อก (Botox) สามารถช่วยลดริ้วรอยบริเวณหน้าผากได้ เช่น รอยย่นตรงกลางหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว
- บริเวณหางตา: โบท็อก (Botox) สามารถช่วยลดริ้วรอยบริเวณหางตาได้ เช่น รอยตีนกา
- บริเวณระหว่างคิ้ว: โบท็อก (Botox) สามารถช่วยลดริ้วรอยบริเวณระหว่างคิ้วได้ เช่น รอยขมวดคิ้ว
- บริเวณใต้ตา: โบท็อก (Botox) สามารถช่วยลดริ้วรอยใต้ตาเวลายิ้มและยังช่วยให้ใต้ตาดูสว่างขึ้น
ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อก (Botox)
ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อก (Botox) ริ้วรอย จะเริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วัน และจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 2-4 สัปดาห์ โดยผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ตำแหน่งที่ฉีด ปริมาณยาที่ฉีด ยี่ห้อที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีดค่ะ
โบท็อก (Botox) ปรับรูปหน้า
สำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับ โบท็อก (Botox) ลดกรามเป็นหัตถการที่หมอแนะนำให้คนไข้ทำโบท็อก (Botox) สามารถช่วยลดขนาดกรามได้ โดยการทำงานของโบท็อก (Botox) ทำให้มีการคลายตัวของกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ ส่งผลให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลง และทำให้หน้าดูเรียวเล็กตามไปด้วยจะมีผลต่อรูปหน้าดังนี้
- ปรับรูปหน้าเรียว : กล้ามเนื้อกรามหดตัวและหย่อนลง ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง
- ลดสันจมูก : ลดการทำงานของกล้ามเนื้อที่ดึงสันจมูกขึ้น ทำให้สันจมูกดูเรียบเนียนและเล็กลง
- ลดการเห็นเหงือก : มุมปากหดลง ส่งผลให้เห็นเหงือกน้อยลงเวลายิ้ม
ถ้าหากบริเวณขอบกราม เหนียง มีส่วนที่เป็นไขมัน ในจุดนี้จะต้องใช้หัตถการอื่นในการลดปริมาณไขมันร่วมด้วย หรือในผู้ที่มีขนาดกรามใหญ่ร่วมด้วยปัญหาผิวหย่อนคล้อยสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น อย่างการร้อยไหม เพื่อลดขนาดกรามพร้อมยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และนอกจากโบท็อก (Botox) จะช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกรามแล้ว ยังนิยมนำมาใช้ในการฉีดลิฟท์หน้าให้หน้าเรียวเล็ก กระชับ กรอบหน้าชัด ทั้งนี้หากจะให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี จะต้องฉีดกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์และคลินิกเท่านั้นค่ะ
ปรับให้ผิวเนียนใสขึ้นกระชับรูขุมขน
การฉีดโบท็อก (Botox) ลดรูขุมขน แพทย์จะฉีดยาเข้าไปในกล้ามเนื้อและต่อมไขมัน โดยบริเวณรูขุมขนจะมีกล้ามเนื้อที่ใช้ดึงเส้นขนอยู่ เมื่อฉีดโบท็อก (Botox) ก็จะช่วยให้รูขุมขนหดเล็กลง ต่อมไขมันเล็กลง ทำให้รูขุมขนกระชับขึ้นได้ ลดโอกาสเกิดสิว ผิวเรียบเนียน และช่วยให้หน้าใสขึ้นด้วยค่ะ
โบท็อกช่วยยกกระชับผิวหน้า
โบท็อกลิฟกรอบหน้า (Botox Face Lifting) เป็นหนึ่งในหัตถการที่ช่วยยกกระชับใบหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด โดยจะฉีดโบท็อก (Botox) เข้าไปที่บริเวณแนวกราม เพื่อยกกระชับผิว ทำให้เห็นแนวกราม เห็นกรอบหน้าชัด และทำให้หน้าเรียวมากขึ้นนั่นเองค่ะ
อย่างไรก็ตาม การฉีดโบท็อก (ฺBotox) เพื่อปรับรูปหน้า สันจมูก และลดการเห็นเหงือก ควรได้รับการพิจารณาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากจะต้องพิจารณาถึงสาเหตุของปัญหาและความต้องการของคนไข้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยค่ะ
การฉีดโบท็อก (ฺBotox) ลิฟกรอบหน้านั้น จะแบ่งเป็น 2 เทคนิคหลัก ๆ ดังนี้
- Dermalift เป็นการฉีดโบท็อก (ฺBotox) เข้าไปที่ผิวชั้นตื้นช่วงบริเวณกรอบหน้า ทำให้เซลล์ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดการหดตัว กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน พร้อมกับยกกระชับผิว ทำให้ผิวเต่งตึง และเห็นกรอบหน้าได้อย่างชัดเจน
- Nefertiti lift จะเป็นการฉีดโบท็อก (ฺBotox) เข้าไปที่กล้ามเนื้อบริเวณใต้คางและลำคอที่ทำให้เกิดการดึงผิวหน้าลงมา ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวเกิดการคลายตัวลง และทำให้ผิวยกกระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การฉีดโบท็อก (ฺBotox) ลิฟกรอบหน้าจะเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด ใบหน้าไม่มีมิติ ผิวหน้าหย่อนคล้อย มีเหนียง แล้วต้องการยกกระชับผิว ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย เห็นกรอบหน้าชัด โดยที่ไม่ต้องการผ่าตัดยกกระชับ
รักษาอาการเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis)
อาการเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis) นั้นส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันได้มาก การรักษาจึงมีความสำคัญขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ โดยสามารถรักษาได้ด้วยการฉีดโบท็อกลดเหงื่อ โดยจุดที่ได้รับความนิยม คือ
- รักแร้ ใต้วงแขน: หมอจะฉีดโบท็อก (Botox) ข้างละ 100 ยูนิต เข้าไปบริเวณรักแร้ 20-30 จุด เพื่อยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อและกลิ่นกายบริเวณใต้วงแขนให้ทำงานได้น้อยลง ส่งผลให้สามารถลดเหงื่อออกที่ใต้รักแร้ได้กว่า 80% เลยค่ะ
- มือ: การฉีดโบท็อก (ฺBotox) ที่มือ เป็นวิธีการรักษาภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติที่ได้ผลดีและปลอดภัย เหมาะสำหรับผู้ที่เหงื่อออกบริเวณฝ่ามือ อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก (ฺBotox) มือ เพื่อประเมินความเหมาะสมและรับคำแนะนำในการดูแลหลังการฉีดอย่างถูกต้อง
- เท้า : เหงื่อออกเท้าเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย เกิดจากต่อมเหงื่อบริเวณฝ่าเท้าทำงานมากเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา เช่น รองเท้าเปียก เท้าลื่น กลิ่นเท้า เชื้อราที่เท้าการฉีดโบท็อก (ฺBotox) สามารถช่วยแก้ไขได้ เพราะนอกจากลดเหงื่อแล้วยังช่วยลดการหมักหมมของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นเท้าได้ด้วย
ข้อดีการฉีดโบท็อกลดเหงื่อ
การฉีดโบท็อก (ฺBotox) ลดเหงื่อบริเวณส่วนต่างๆของร่างกายได้ผลดีและปลอดภัย ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA)และเห็นผลเร็ว จะเริ่มเห็นผลภายใน 2-3 วันหลังฉีดผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 3 – 6 เดือนและเป็นการรักษาโดยการฉีดยาเข้าสู่ผิวหนังด้วยเข็มขนาดเล็ก ไม่ต้องใช้การผ่าตัดและไม่เจ็บมากค่ะ
ข้อเสียการฉีดโบท็อกลดเหงื่อ
ผลข้างเคียง : ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดโบท็อก (ฺBotox) ลดเหงื่อ ได้แก่ อาการบวมช้ำ รอยแดง ปวดบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์การฉีดโบท็อก (ฺBotox) ลดเหงื่อจะช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อได้ชั่วคราว โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้นจะต้องทำการฉีดซ้ำ และข้อเสียต่อมาคือการฉีดโบท็อก (ฺBotox) ลดเหงื่อมีราคาค่อนข้างสูง แต่อาจจะต้องขึ้นอยู่กับแบร์นที่เลือกใช้ร่วมด้วยค่ะ
บรรเทาอาการ Office syndrome
ออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) และอาการปวดไมเกรนป็นอาการที่พบได้บ่อยในวัยทำงาน เป็นภาวะที่เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อซ้ำๆ หรืออยู่ในท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณศีรษะ คอ บ่า ไหล่ สะบัก มือการฉีดโบท็อก (ฺBotox) สามารถช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ สะบัก มือ ของผู้ที่มีอาการออฟฟิศซินโดรมได้ โดยโบท็อก (ฺBotox) จะไปออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่งผลให้อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อลดลง
ผลการศึกษาพบว่า การฉีดโบท็อก (ฺBotox) สามารถช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ สะบัก มือ ของผู้ป่วยออฟฟิศซินโดรมได้ โดยผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน
ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อก (ฺBotox) ที่พบได้บ่อยในบางราย ได้แก่ ผู้ที่ฉีดจะมีอาการบวมช้ำ รอยแดง ปวดบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
นอกจากการฉีดโบท็อกคอ บ่า ไหล่ บรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรมแล้ว ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่ช่วยลดอาการปวดเกร็งได้ค่ะ
- การทานยาคลายกล้ามเนื้อ
- การนวดกดจุด
- การทำกายภาพบำบัด
- การประคบร้อน
วิธีเหล่านี้เมื่อเทียบกับการฉีดโบท็อก (ฺBotox) ออฟฟิศซินโดรมแล้ว การฉีดโบท็อก (ฺBotox) จะเห็นผลดี และเห็นผลนานกว่าเพราะเป็นการคลายมัดกล้ามเนื้อโดยตรง ไม่เหมือนการนวดกดจุด นวดแผนไทย หรือการทานยาคลายกล้ามเนื้อที่ลดอาการปวดได้แค่ชั่วคราว เห็นผลไม่นาน สุดท้ายจะกลับมาปวดเหมือนเดิมค่ะ
ลดการนอนกัดฟันตอนกลางคืน
การนอนกัดฟัน เป็นความผิดปกติของการทำงานของอวัยวะบดเคี้ยว เช่น กล้ามเนื้อ และ ข้อต่อขากรรไกร อาจพบว่ากัดฟันเฉยๆโดยที่ไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย หรืออาจมีการเมื่อยแก้มหรือขมับ อาจปวดหัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังตื่นนอน บางคนก็อ้าปากไม่ค่อยได้ช่วงตื่นใหม่ๆ ในหลายๆค อาจพบฟันสึก จนอาจมีอาการเสียวฟัน มีฟันหรือวัสดุบูรณะฟันแตกร้าวเกิดขึ้น หากมีการกัดฟันรุนแรงมาก
การฉีดโบท็อก (BOTOX หรือ Botulinum Toxin)เข้ากล้ามเนื้อมัดที่ควบคุมการเคี้ยว ผลของโบท็อก จะทำให้กล้ามเนื้อลดการทำงานลงได้ จึงช่วยให้ลดความรุนแรงของการนอนกัดฟันลงได้ และยังช่วยลดความรุนแรงของผลเสียของการนอนกัดฟันลงได้ด้วยเช่นกัน
หลายคนอาจสงสัยโบท็อกช่วยเรื่องนอนกัดฟันได้อย่างไรหมอขออธิบายเวลาฉีดโบท็อกกรามหมอจะฉีดโบท็อกไปที่กล้ามเนื้อเคี้ยวชื่อว่า Masseter Muscle กล้ามเนื้อนี้ทำหน้าที่กัดหรือเคี้ยวอาหาร หลังฉีดโบท็อก (ฺBotox) ไปที่กล้ามเนื้อกรามตัวนี้จะทำให้กล้ามเนื้อเคี้ยวอ่อนแรงลง พละกำลังในการกัดฟันลดลง จึงลดการนอนกัดฟันและลดเสียงที่มาจากการกัดฟันได้
แต่เนื่องจากผลของโบท็อก (ฺBotox) นั้นออกฤทธิ์ระยะสั้น หากต้องการให้ได้ผลดี ควรต้องได้รับการฉีดโบท็อก (Botox) ทุก 3-6 เดือน ซึ่งพบได้ว่า ความรุนแรงของการกัดฟันจะลดลงได้เยอะมากเลยค่ะ
7 ข้อที่หมอได้กล่าวมาทั้งหมดทางคลินิกความงาม ที่ลินนาคลินิก (LINNA Clinic) สามารถทำได้ค่ะ แต่ทั้งนี้หมอลินนาคลินิก (LINNA Clinic) แนะนำว่า ควรศึกษาข้อมูลและดูรีวิวของคลินิกก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก (Botox) เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับบริการที่ดีและปลอดภัย เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือและต้องใช้โบท็อก (Botox) แท้เท่านั้น ที่ลินนาคลินิก (LINNA CLINIC) ใช้โบท็อก (Botox) แท้ทุกยี่ห้อ แกะกล่องและเปิดขวดใหม่ เพื่อมั่นใจว่าเป็นของแท้ค่ะ สามารถปรึกษาหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ไลน์ @linnaclinic ค่ะ
