โบท็อก (Botox) กรามเหมาะกับใคร อยากหน้าเรียวต้องอ่าน

หากลูกค้าท่านใดที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ การฉีดโบท็อก (Botox) กรามอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคนที่อยากให้หน้าเรียว  เนื่องจากโบท็อก (Botox) กรามเป็นวิธีที่ปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยตัวยาโบท็อก (Botox) จะส่งผลให้กรามดูเล็กลงและหน้าดูเรียวขึ้น

1. ผู้ที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อและต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเป็นวีเชฟ

กรามใหญ่จากกล้ามเนื้อเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย เกิดจากกล้ามเนื้อกรามทำงานมากเกินไป ทำให้กรามดูใหญ่ขึ้น หน้าดูเหลี่ยมหรือเป็นลักษณะสี่เหลี่ยม การฉีดโบท็อก (Botox) กรามจะเข้าไปช่วยยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ทำให้กล้ามเนื้อเล็กลง ส่งผลให้หน้าเรียวขึ้นได้

2. ผู้ที่ไม่อยากผ่าตัด:

โบท็อก (Botox) กรามเป็นวิธีปรับรูปหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องแผลเป็น รอยช้ำ พักฟื้นเร็วกว่า และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการผ่าตัด

3.ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์หน้าเรียวที่รวดเร็ว:

การฉีดโบท็อกกรามใช้เวลาในการทำไม่นาน ประมาณ 15-30 นาที หลังฉีดเสร็จสามารถกลับบ้านและใช้ชีวิตปกติได้โดยที่ไม่ต้องพักฟื้น

ลินนาคลินิก (LINNA Clinic) ขอแนะนำก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก (Botox) ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินใบหน้าและความเหมาะสมของการรักษา  แพทย์จะวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้า สาเหตุของกรามใหญ่เช่น เกิดจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่หรือเกิดจากไขมันสะสม และแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณค่ะ

Table of Contents

กรณีใดบ้างที่อยากหน้าเรียวแต่ไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกกราม

1.ผู้ที่ไม่มีกล้ามเนื้อกรามหรือมีกล้ามเนื้อกรามน้อยมากการฉีดโบท็อกกรามจะไม่ส่งผลให้หน้าเรียวขึ้นเพราะกล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กอยู่แล้วแพทย์อาจแนะนำหัตถการอื่น

2.ปัญหาที่หน้าไม่เรียวเนื่องจากไขมันแพทย์จะแนะนำให้ฉีดสลายไขมันมากกว่าเพราะการฉีดโบท็อก (Botox) กรามจะไม่ช่วยลดไขมัน

3.โครงหน้ากระดูกเหลี่ยมคนไข้ที่ไม่มีไขมันและกรามเนื้อกรามที่เยอะกรณีดังกล่าวต้องทำศัลยกรรมเท่านั้นกรณีนี้การฉีดโบท็อก (Botox) กรามจะไม่ช่วยให้หน้าเรียวเพราะโครงหน้ามาจากกระดูกค่ะ

ทำไมฉีดโบท็อก (Botox) กรามแล้วหน้าคล้อย

ปัญหาการฉีดโบท็อก (Botox) ลดกรามแล้วหน้าคล้อย เป็นปัญหาที่พบบ่อยมาก ในกรณีของลูกค้าที่มีกรามใหญ่และฉีดลดกรามเยอะผิวไม่ได้เต่งตึงตั้งแต่แรกหรืออายุที่เพิ่มมากขึ้นตามวัย จะพบปัญหานี้ได้

สาเหตุที่ฉีดโบท็อก (Botox) ลดกรามแล้วหน้าคล้อย เกิดจากการทำงานของโบท็อก (Botox) ที่ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ทำให้กล้ามเนื้อกรามอ่อนแรงลง ส่งผลให้กรามดูเล็กลง แต่ไม่ได้ยกกระชับผิวบริเวณกรามได้ ดังนั้นหากกรามยุบลง ผิวหนังบริเวณกรามจะหย่อนลง ทำให้ผิวหน้าคล้อยและไม่กระชับกรอบหน้าไม่ชัดและผิวคล้อยขึ้น

โดยปกติหมอจะแนะนำให้ใช้เครื่องยกกระชับ เช่น  HIFU ไปพร้อมๆกับการฉีดโบท็อก (Botox) กรามใน SESSION เดียวกันเนื่องจาก HIFU จะช่วยยกกระชับผิวบริเวณกรอบหน้าให้ตึงขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวและเต่งตึงขึ้นกรอบหน้าชัด

การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก (Botox) กรามเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน

  • งดกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงและควรเลี่ยงความร้อนทุกชนิด หลังฉีดโบท็อก (Botox) ควรหลีกเลี่ยงความร้อนและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงทุกชนิดเป็นเวลา 14 วัน เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ โยคะร้อน  ตากแดด เลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF Thermage อย่างไรก็ตาม หากท่านไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังฉีดโบท็อก (Botox) สาเหตุที่ควรหลีกเลี่ยงความร้อนและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เนื่องจากความร้อนจะทำให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้การไหลเวียนโลหิตบริเวณที่ฉีดเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้โบท็อก (Botox) กระจายตัวไปผิดตำแหน่ง และส่งผลต่อผลให้โบท็อกคลายประสิทธิภาพลงและไม่เห็นผลเร็วขึ้น
  • หลีกเลี่ยงขยับใบหน้าหรือทำการแสดงออกทางสีหน้ารุนแรง และหลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมากฝรั่งเยอะหรือเคี้ยวนานๆเพราะอาจทำให้โบท็อก (Botox) ระจายตัวไปผิดตำแหน่ง และส่งผลต่อให้โบท็อกคลายตัวได้ไวขึ้น
  • การนวดหน้าแรงๆ: การนวดหน้าแรงๆ หลังฉีดโบท็อก (Botox) อาจทำให้ผิวบริเวณกรามและคอหย่อนคล้อย เนื่องจากคอลลาเจนใต้ผิวได้รับความเสียหาย
  • การกินอาหารบวมน้ำ: การกินอาหารบวมน้ำหลังฉีดโบท็อก (Botox) อาจทำให้ใบหน้าบวม รวมถึงผิวบริเวณกรามและคอดูหย่อนคล้อย
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์เป็นสารที่กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นได้
  • พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูร่างกาย ทำให้ผลลัพธ์การรักษาอยู่ได้นานขึ้น
  • หลังฉีดโบท็อกในแต่ละบริเวณ ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อจุดที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
  • ควรฉีดโบท็อกต่อเนื่องในระยะที่เหมาะสม ไม่ถี่เกินไป (ระยะเวลา 3 เดือน) และไม่ควรเว้นระยะห่างเกินไป (เกิน 5-6 เดือน)

ทั้งนี้ หมอขอแนะนำว่าการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลงต้องดูปัญหาของแต่ละบุคคลว่าปัญหาหน้าไม่เรียวเกิดจากสาเหตุใดซึ่งโบท็อก (Botox) สามารถเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้หน้าเล็กลงได้แต่ในบางกรณีอาจจะต้องมีการทำหัตถการอื่นร่วมด้วยเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด ฉะนั้นแนะนำว่าให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจปัญหาใบหน้าของแต่ละท่านมีปัญหาใดเกิดจากสาเหตุใดเพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด หรือสามารถปรึกษาหมอได้ที่ ลินนาคลินิก (LINNA Clinic) เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์รวมถึงตัวยาที่ใช้ปลอดภัยมี อย. สามารถฉีดได้ มั่นใจได้และคนไข้สามารถปรึกษาลินนาคลินิกได้ที่เบอร์ 063-609-8888 หรือทางไลน์ @linnaclinic ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Scroll to Top