ฟิลเลอร์ Filler
ฟิลเลอร์คือสารเติมเต็มผิวที่นิยมเรียกกันว่า ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือเรียกสั้นๆว่า “HA” กระบวนการของสารตัวนี้สามารถเติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง เพราะสาร “HA” จะช่วยกักเก็บน้ำและความชุ่มขื้นไว้ในชั้นใต้ผิว จะช่วยเติมเต็มช่องว่างให้กับเซลล์ผิว ทำให้ผิวเกิดความยืดหยุ่น และเพิ่มความเต่งตึงลดริ้วรอยเล็กๆบริเวณนั้นๆ
ฟิลเลอร์ช่วยอะไร
ฟิลเลอร์ใช้เติมเต็มส่วนที่มีร่องลึก จะช่วยทำให้ร่องดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพราะเป็นการทดแทนใยคอลลาเจนที่หายไปตามกาลเวลา ให้ผิวกลับมาดูอิ่มผ่องใส ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่มากกว่านั้นเราสามารถใช้ฟิลเลอร์มาช่วยในการปรับแต่งรูปหน้าได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ฉีดฟิลเลอร์คาง ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หรือ ฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อช่วยปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติและสวยมากยิ่งขึ้น
ฟิลเลอร์ อันตรายไหม
ถ้าใช้ฟิลเลอร์แท้ที่เป็นสาร HA (Hyaluronic acid) 100% ฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกมีมาตรฐาน ก็จะมีความปลอดภัยสูง แต่หากใช้สารอื่นฉีดแทนฟิลเลอร์ เช่น ซิลิโคนเหลว ฟิลเลอร์ปลอม หรือฉีดกับคนที่ไม่ใช่หมอ ก็เป็นอันตรายได้ค่ะ ยังไงแอดมินก็อยากให้เลือกที่ที่ได้รับมาตรฐานนะคะ
ไม่กล้าฉีดฟิลเลอร์เพราะกลัวฟิลเลอร์ไหล เกิดขึ้นได้จริงหรอ
ถ้าเลือกฉีดกับที่ๆได้รับมาตรฐานและกับแพทย์ที่มีความชำนาญก็จะไม่เกิดปัญหาพวกนี้ค่ะ อาการหลังฉีดฟิลเลอร์แล้วไหล ย้อย ไม่เป็นทรง เกิดได้จากหลายปัจจัย:
1.ฟิลเลอร์ปลอม
ฟิลเลอร์ที่บอกว่าอยู่ได้นานเกิน 5 ปี และบอกว่าเป็นฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร จริงๆแล้วพวกนี้จะไม่ใช้สาร “HA”ค่ะเพราะถ้าอยู่ใต้ผิวหนังเป็นระยะเวลานานจนเกินไป อาจจะมีการเคลื่อนตำแหน่งไปยังจุดอื่นๆบนใบหน้าได้
ถ้าจะฉีดฟิลเลอร์ ควรศึกษาวิธีการสังเกตฟิลเลอร์ของแท้ยี่ห้อต่างๆไว้ด้วยค่ะ ที่สำคัญคือก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรให้หมอแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า และขอกล่องและหลอดกลับบ้าน เพื่อให้มั่นใจว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดนั้นแท้และได้มาตรฐานค่ะ
2.ใช้ฟิลเลอร์ให้ถูกกับปัญหา
ฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อ และหลายรุ่น มีจุดเด่นและคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป มีทั้งเนื้อแบบแข็งและเนื้ออ่อน แต่ละแบบเหมาะกับแต่ละจุดที่ต้องการฉีด หมอจะต้องมีความชำนาญและเลือกเนื้อฟิลเลอร์ให้เหมาะกับผิวบริเวณที่ฉีด เพราะการใช้ฟิลเลอร์ที่มีความละเอียดของโมเลกุลใหญ่เกินไปฉีดในจุดที่ผิวบางหรืออ่อน หรือจุดที่มีความความเคลื่อนไหวมาก อาจจะส่งผลให้เกิดการหน่วงของผิวบริเวณที่ฉีด ทำให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนที่ไปยังบริเวณอื่นบนใบหน้าได้ ดังนั้นคนไข้ควรปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะสมค่า
หากเข้าใกล้กับความร้อนจะทำให้ ฟิลเลอร์ ละลาย จริงหรือไม่
ความร้อนมีผลต่อการสลายของฟิลเลอร์ค่ะ แต่ว่าต้องพิจารณาเป็นกรณีไปว่าบริเวณที่สัมผัสกับความร้อนนั้นอยู่ตรงส่วนไหน เช่น คนที่ฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากที่นิยมรับประทานของร้อนเป็นประจำอาจมีส่วนทำให้ฟิลเลอร์บริเวณปากสลายไปได้เร็วกว่าอายุของฟิลเลอร์จริงๆ แต่ถ้าเป็นจุดอื่นๆบนใบหน้าส่วนมากความร้อนทั่วไปจะไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่นักเพราะไม่มีส่วนที่ได้รับการสัมผัสกับความร้อนโดยตรงเป็นเวลานานๆ
การฉีด Filler ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล
ปกติฟิลเลอร์จะเห็นผลชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และจะอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน แล้วแต่ยี่ห้อที่เลือกใช้และการดูแลตัวเอง รวมไปถึงสภาพผิวของแต่ละคนด้วยค่ะ
ถ้าฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่ฉีดอีก จะทำให้หน้ายิ่งเหี่ยวหนักกว่าเดิมไหม
หลายคนเข้าใจว่าถ้าหยุดฉีดฟิลเลอร์ไป จะทำให้หน้าเหี่ยวหนักกว่าเดิม แต่จริงๆเป็นเพราะไม่คุ้นเคยกับลักษณะของผิวตัวเองตอนที่ฟิลเลอร์สลายหมด การฉีดฟิลเลอร์จะทำให้ผิวบริเวณรอบๆมีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำมากขึ้น ทำให้คอลลาเจนหรืออิลาสตินบริเวณนั้นสร้างขึ้นมาอีกด้วย ต่อให้ฟิลเลอร์สลายหมดแต่คอลลาเจนและอิลาสตินของร่ายกายยั่งคงอยู่ซึ่งจะช่วยชะลออายุของผิวได้เหมือนกันค่ะ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
ข้อควรปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ หมอมีคำแนะนำดังนี้:
- ไม่ควรออกกำลังกายหนักที่ทำให้เหงื่อไหลออกมา หรือ ตากแดดร้อนๆ
ภายใน 48 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ - ไม่ควรเอามือจับบริเวณที่ฉีด หรือ ลูบคลำ นวด คลึง หรือปั้นให้เป็นรูปร่างเอง เพราะฟิลเลอร์อาจจะเคลื่อนตำแหน่งไปตรงจุดอื่นที่ไม่ต้องการก็เป็นได้
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปากควรงดูดน้ำจากหลอดและการจูบ
- แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วง 4 วันแรกหลังจากการฉีด ดื่มน้ำให้ได้ปริมาณ 1.5-2 ลิตรต่อวัน หรือประมาน 8-10 แก้ว เพราะฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ ช่วยทำให้ผิวอิ่มเอิบมากขึ้นและช่วยให้คงสภาพอยู่ได้นานขึ้นด้วยค่ะ
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 2 สัปดาห์ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนในบริเวณที่ฉีด งดอบไอน้ำ อบซาวน่า ทำเลเซอร์ ทำ RF ความร้อนในระดับที่สามารถสัมผัสได้ คือ ไดร์เป่าผมและแสงแดดที่ไม่แรงจ้าจนเกินไป หลังจาก 2 สัปดาห์ขึ้นไปก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- หลังจาก 24 ชั่วโมงหลังกาจฉีดฟิลเลอร์ สามารถทาแป้งแต่งหน้า ทารองพื้นปกปิดบริเวณที่เขียวช้ำหรือรอยแดงจากเข็มได้ตามปกติ
- เมื่อผ่านไป 1 สัปดาห์ สามารถทำ Treatment อื่นๆ ได้ตามปกติ
ฟิลเลอร์ ที่ได้มาตรฐานจะอยู่ได้นานแค่ไหน
ฟิลเลอร์ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร เพราะเมื่อเวลาผ่านไปสาร Hyaluronic Acid จะค่อยๆย่อยสลายไปตามกระบวนการธรรมชาติของร่างกาย ส่วนใหญ่ถ้าฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานครั้งนึงจะอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน แล้วแต่รุ่นของฟิลเลอร์ สิ่งที่ต้องระวังคือ ถ้าหากเป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น ซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน สารเหล่านี้จะไม่สามารถย่อยสลายไปได้เอง หากฉีดเข้าไปหลายๆ ครั้ง เมื่อหมดอายุแล้วจะทำให้เกิดการไหลไปกองรวมกันเป็นพังผืด จะไม่สามารถฉีดสลายออกได้ ทางเดียวที่จะเอาออกได้คือต้องผ่าตัดขูดออกเท่านั้น
ฉีดฟิลเลอร์ ได้ที่บริเวณไหนบ้าง
คนส่วนใหญ่มักจะนิยมฉีดฟิลเลอร์บริเวณใบหน้าที่มีปัญหาริ้วรอยชัดๆ ร่องลึกหรือส่วนที่มีการยุบตัวของกระดูกเมื่ออายุมากขึ้น เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม คาง ปาก รวมถึงฉีดเพื่อเสิรมโหงวเฮ้งตัวเอง เช่น หน้าผากหรือขมับ แต่ไม่ว่าจะต้องการฉีดเพื่อความสวยงามหรือเพื่อเสริมโหงวเฮ้ง ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตฐาน ฉีดกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ออกมาสวยค่ะ
ระยะเวลาที่ฟิลเลอร์สามารถอยู่ได้ในแต่ละจุดที่ฉีด
- ใต้ตา: 6-9 เดือน
- Skin Booster: 6-9 เดือน
- ปาก: 6-12เดือน (ขึ้นกับของที่ทาน)
- ร่องแก้ม: 12 เดือน
- ขมับ: 18-24 เดือน
- หลุมสิว: 6-12เดือน (แต่ทำร่วม dermafix จะตื้นขึ้นถาวร)
- ริ้วรอยต่างๆ: 6-12 เดือน (แต่ทำร่วม dermaflx จะตื้นขึ้นถาวร)
- คาง: 18-24 เดือน
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์
- ฟิลเลอร์ช่วยชะลอวัย หลังฉีดเห็นผลทันทีและไม่ต้องพักฟื้น
- ฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ปลอดภัย และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง (เนื่องจากฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. จะมีความปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้และไม่มีปัญหาเรื่องของสารตกค้างในร่างกาย สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ)
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่มีรอยแผลเป็น
- ฟิลเลอร์สามารถเติมได้เรื่อยๆ ปรับแต่งได้ (ถ้าไม่ชอบก็สามารถฉีดสลายออกได้ 100%)
- ฟิลเลอร์ให้ผลได้แม่นยำ สวยเป็นธรรมชาติกว่าการเติมเต็มด้วยวิธีอื่นๆ
- ฟิลเลอร์เหมาะกับตำแหน่งที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม คาง
- ฟิลเลอร์ไม่มีความเสี่ยงในการวางยาสลบ
ข้อควรระวังของการฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร