
PRP
สวยด้วยเลือดตัวเอง การฉีด PRP (PLATELET RICH PLASMA)
PRP คืออะไร?
การฉีดเกล็ดเลือดบริเวณที่เรามีปัญหากระบวนการนี้ เรียกว่า PRP (Platelet-Rich Plasma) คือเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้วยการนำเอาเลือดของคนไข้เองมารักษา การรักษาแบบ PRP นี้มีใช้อยู่แล้วในทาง
ทันตกรรมและศัลยกรรมกระดูก ซึ่งเลือดจะประกอบด้วยเม็ดเลือดแดง เกล็ดเลือดและส่วนของเหลวเรียกว่าพลาสมานั่นเอง ส่วนสำคัญของกระบวนการรักษา โดย PRP นั้นคือเกล็ดเลือด เพราะในเกล็ดเลือดมีสารที่เรียกว่า Growth Factor เป็นสารกระตุ้นการเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

ขั้นตอนการทำ PRP:
-
ทายาชาทิ้งไว้ทั่วหน้าประมาณ 30 นาที
-
ทำการเจาะเลือดจากข้อพับแขน2ข้างโดยใช้เลือดประมาณ10-20 ซีซี ใส่หลอดที่เตรียมไว้
-
นำเลือดมาปั่น แยกเกร็ดเลือด ปั่นในรอบความถี่ที่เหมาะสม จะได้เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือดแยกออกมาเป็นชั้น โดยชั้นที่เป็นเกล็ดเลือดเยอะๆ เราเรียกว่า PRP (Platelet-Rich Plasma) เป็น ชั้นที่จะนำมาใช้ เพราะในเกล็ดเลือดที่ได้จากการปั่นนั้นจะหลั่งสารที่เรียกว่าา Growth Factor
-
การฉีดเกล็ดเลือด PRP เข้าสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ต้องการฟื้นฟูแก้ไข เช่น บริเวณใบหน้า ขณะฉีดอาจจะเห็นว่ามีเลือดเป็นจุดๆกระจายทั่วหน้า


ข้อดีของการรักษาด้วย Growth factor ที่ได้จาก PRP
ร่างกายสามารถนำมาใช้ได้ทันที สามารถเห็นผลการรักษาได้ชัดเจนในครั้งที่ 3 หรือ 4 และเป็นการรักษาให้ผิวแข็งแรงจากภายใน
1.ทำให้ใบหน้า กระจ่างใสดูอ่อนวัยขึ้นภายใน 1 สัปดาห์
2.ซ่อมแซมผิวหนังที่ เกิดปัญหา ช่วยชะลอความชรา
3.เร่งการซ่อมแซมและ รักษาผิวจากการถูกทำลาย ช่วยให้ผิวตึงกระชับ เรียบ เนียนและอ่อนนุ่ม
4.มีความปลอดภัยสูง ไม่แพ้และไม่มีสารตกค้างทำให้โอกาสติดเชื้อน้อยมากจากการฉีดเพราะว่าเป็นเลือดของตัวเอง
หลังการทำ PRP ทันที
-
จะรู้สึกได้ว่าผิวหน้าแน่นขึ้น อาจมีรอยเข็มเล็กน้อยเป็นเหมือนตุ่มมดกัดบ้าง บางท่านอาจมีรอยช้ำประมาณ 3-4 วัน
-
ห้ามโดนน้ำ 24 ชั่วโมง หลีกเลี่ยง แสงแดด ฝุ่นละออง เพราะจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
-
หลังจากทำPRPจะเห็นผลดีขึ้นเรื่อยๆในอาทิตย์ที่ 3
-
PRP ควรทำซ้ำโดยเว้นประมาณ1เดือน โดยเฉลี่ยควรทำประมาณ3ครั้ง
-
ทำได้ทุกช่วงทุกวัย เหมาะสำหรับคนที่อยากให้ผิวดูดีขึ้น
Before & After


