Home » บริการของเรา » Plasmapheresis
Plasmapheresis DFPP คืออะไร? ทางเลือกใหม่ในการกำจัดสารพิษ และดูแลหลอดเลือด
ในยุคสมัยใหม่ที่ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไป ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน และภาวะความดันโลหิตสูง มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการสะสมของสารพิษ ไขมัน รวมถึงสารต่างๆ ที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งมีที่มาจากทั้งอาหาร มลภาวะในชีวิตประจำวัน การขาดการออกกำลังกาย ความเครียดสะสมและการพักผ่อนไม่เพียงพอ นวัตกรรมดูแลสุขภาพหลอดเลือดอย่างการทำ Plasmapheresis DFPP หรือ Double Filtration Plasmapheresis เทคโนโลยีกรองพลาสมา 2 ขั้นตอน จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อช่วยดูแลสุขภาพจากภายในได้อย่างตรงจุด และมีความปลอดภัย บทความนี้จาก LINNA Clinic รวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ DFPP ทั้งหลักการทำงาน DFPP ช่วยเรื่องอะไร? เหมาะกับใคร ข้อดี-ข้อควรระวัง รวมถึงวิธีการเตรียมตัวก่อนและหลังทำ DFPP เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนเข้ารับบริการ
Plasmapheresis คืออะไร
Plasmapheresis คือกระบวนการทำความสะอาดเลือดโดยใช้เครื่องกรองที่มีความจำเพาะเพื่อแยกพลาสมา (Plasma) ออกจากเซลล์เม็ดเลือด และช่วยลดปริมาณสารไม่พึงประสงค์ เช่น ไขมันเลว (LDL) ไตรกลีเซอไรด์ แอนติบอดีหรือสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ หรือโปรตีนที่ก่อให้เกิดการอักเสบ จากนั้นจึงเติมพลาสมาที่สะอาดเข้าสู่ร่างกายอีกครั้ง กระบวนการนี้ช่วยให้เลือดสะอาดขึ้นพร้อมทั้งช่วยปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย โดยสามารถแบ่งรูปแบบการทำ Plasmapheresis ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- Plasmapheresis แบบทั่วไป (Therapeutic Plasma Exchange: TPE) เป็นการกรองแยกพลาสมาออกจากเลือดแล้วแทนที่ด้วยพลาสมาที่ได้จากผู้บริจาค หรือสารละลายทดแทน
- Double Filtration Plasmapheresis (DFPP) ด้วยการกรองถึง 2 ชั้น เพื่อกำจัดสารไม่พึงประสงค์ออกไปให้ได้มากที่สุด ทำให้พลาสมาสะอาดและมีโมเลกุลเล็กลง จากนั้นจึงเติมพลาสมา เซลล์เม็ดเลือด และองค์ประกอบสำคัญอื่นๆ กลับสู่ร่างกายได้โดยไม่ต้องใช้สารทดแทนจากภายนอก
เทคนิคของการทำ DFPP คืออะไร
Double Filtration Plasmapheresis หรือ DFPP เป็นเทคนิคหนึ่งของการทำ Plasmapheresis ที่ใช้กระบวนการกรองพลาสมาถึง 2 ขั้นตอน โดยการกรองชั้นแรกจะแยกเอาพลาสมา (Plasma) ออกจากเซลล์เม็ดเลือด จากนั้นนำพลาสมาที่ได้ไปผ่านตัวกรองที่มีความจำเพาะอีกชั้นเพื่อคัดแยกและกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่ไม่ต้องการออก เช่น ไขมัน เชื้อไวรัส สารก่อภูมิแพ้ แอนติบอดี (Antibody) ที่ผิดปกติ หรือโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ แล้วจึงคืนพลาสมาที่สะอาด เซลล์เม็ดเลือด และโปรตีนสำคัญอื่นๆ กลับเข้าสู่ร่างกาย การฟอกเลือดด้วยเทคนิค DFPP จึงช่วยลดการสูญเสียโปรตีนสำคัญและป้องกันความเสี่ยงจากการใช้พลาสมาทดแทน โดยสามารถแบ่งรูปแบบการทำ DFPP ตามอัตราการไหลของเลือดและพลาสมาที่ใช้ได้ 2 รูปแบบ ได้แก่
- DFPP แบบ Low Flow เป็นการกรองพลาสมาผ่านเส้นเลือดดำขนาดปกติ โดยไม่จำเป็นต้องใส่สายสวนหลอดเลือดขนาดใหญ่ สามารถทำได้ในโรงพยาบาลหรือคลินิกที่มีเครื่องมือมาตรฐาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันในเลือด หรือบรรเทาภาวะอักเสบแบบค่อยเป็นค่อยไป
- DFPP แบบ High Flow เป็นการกรองพลาสมาที่ใช้อัตราการไหลเวียนเลือดสูง เพื่อกำจัดสารผิดปกติหรือไขมันส่วนเกินในเลือดได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีระดับไขมันในเลือดสูงมากหรือมีภาวะอักเสบในร่างกายรุนแรง ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน และเนื่องจากมีขั้นตอนการเจาะหลอดเลือดแดงใหญ่บริเวณลำคอจึงต้องดำเนินการในโรงพยาบาลซึ่งมีเครื่องมือมาตรฐานครบครัน ภายใต้การดูแลใกล้ชิดโดยทีมแพทย์และพยาบาลที่มีประสบการณ์เท่านั้น
หลักการทำงานของ DFPP
- แพทย์เจาะเลือดในบริเวณที่กำหนด และส่งเลือดผ่านเครื่องกรองเลือดขั้นตอนแรก (Primary Filtration) เพื่อแยกพลาสมาออกจากส่วนประกอบเซลล์ของเลือด ได้แก่ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด
- พลาสมาที่ผ่านการคัดแยกจะถูกส่งเข้าสู่กระบวนการกรองขั้นตอนที่สอง (Secondary Filtration) ซึ่งมีความสามารถในการคัดกรองเชื้อไวรัส ของเสีย ไขมัน สารพิษ สารก่อภูมิแพ้ รวมถึงโปรตีนก่อการอักเสบได้อย่างจำเพาะเจาะจง ทำให้ได้พลาสมาที่สะอาดและมีโมเลกุลเล็กลงกว่าเดิม
- ส่งพลาสมาที่ผ่านกระบวนการกรอง 2 ขั้นตอน เซลล์เม็ดเลือด และโปรตีนจำเป็นอื่นๆ กลับคืนสู่ร่างกายโดยไม่ต้องใช้ของเหลวทดแทน หรือใช้น้อยกว่าเมื่อเทียบกับการกรองเลือดรูปแบบทั่วไป
DFPP ช่วยเรื่องอะไร
- ลดไขมันเลว (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ในผู้ที่มีค่าผิดปกติ
- ลดปริมาณแอนติบอดี สารก่อการอักเสบ และสารก่อภูมิแพ้ ที่กระตุ้นให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันตนเอง โรคปลอกประสาทอักเสบ หรือโรคระบบประสาทอักเสบชนิดอื่นๆ
- ช่วยลดความหนืดของเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคทางหลอดเลือด
- ขจัดสารพิษและของเสียที่ตกค้างในเลือดที่ร่างกายขับออกได้ไม่หมด ช่วยให้เลือดสะอาดขึ้น
- ช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะอักเสบในหลอดเลือดรวมถึงอวัยวะสำคัญส่วนอื่นๆ ของร่างกาย
- เสริมสมดุลระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย และฟื้นฟูสุขภาพโดยรวม
DFPP เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงและไม่ตอบสนองต่อยาลดไขมัน
- ผู้ที่มีปัญหาโรคหลอดเลือด เช่น หลอดเลือดตีบหรือแข็ง ภาวะเลือดข้น เลือดหนืดผิดปกติ
- ผู้ที่มีภาวะโรคไต หรือมีประวัติการปลูกถ่ายอวัยวะ
- ผู้ที่มีภาวะโรคเบาหวาน
- ผู้ที่มีระดับโปรตีนในเลือดสูงผิดปกติ
- ผู้ที่มีโรคทางระบบประสาทหรือโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เช่น โรคเอสแอลอี (SLE) โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิด Myasthenia Gravis
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพองค์รวม และส่งเสริมการทำงานภูมิคุ้มกันในร่างกาย
DFPP ไม่เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่ายหรือการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรังรุนแรง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวาย
- ผู้ป่วยติดเชื้อรุนแรงที่ยังควบคุมไม่ได้
- ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำมาก
- สตรีมีครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร รวมถึงผู้หญิงช่วงมีประจำเดือน (ควรได้รับการประเมินเป็นรายกรณีโดยแพทย์)
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยา หรือสารละลายที่ใช้ร่วมกับกระบวนการ DFPP
ข้อดีของ DFPP
ใช้ระบบกรอง 2 ขั้นตอน สามารถคัดแยกและกำจัดเฉพาะสารที่ไม่พึงประสงค์ออกจากเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เลือดสะอาดมากขึ้น ลดภาวะอักเสบ และช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง
ช่วยลดระดับไขมันในเลือด โดยเฉพาะ LDL และไตรกลีเซอไรด์ ช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ป้องกันความเสี่ยงของการเกิดโรคทางหลอดเลือด ไขมันในเลือดสูง ความดันสูง และภาวะไขมันพอกตับ
ช่วยปรับสมดุลภูมิคุ้มกัน ส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรง และช่วยฟื้นฟูสุขภาพโดยรวม
ไม่จำเป็นต้องใช้พลาสมาทดแทนหรือสารเคมีจากภายนอกเหมือนการฟอกเลือดแบบทั่วไป จึงช่วยลดความเสี่ยงของอาการแพ้ และผลข้างเคียงอื่นๆ
DFPP อันตรายไหม มีผลข้างเคียงอย่างไร
โดยทั่วไป DFPP ถือว่ามีความปลอดภัยสูง หากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการ ใช้เครื่องมือที่สะอาด ได้มาตรฐาน ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ เช่น ความดันโลหิตต่ำ ปวดหรือเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน เกิดรอยช้ำหรือบวมบริเวณที่เจาะเลือด หรือในบางรายอาจมีอาการชาบริเวณปากหรือมือเนื่องจากระดับแคลเซียมในเลือดลดลง ซึ่งอาการเหล่านี้มักเป็นเพียงชั่วคราว และจะค่อยๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่วันเมื่อดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์
ต้องทำ DFPP บ่อยแค่ไหนถึงเห็นผล
ความถี่ในการทำ DFPP ขึ้นอยู่กับโรคและระดับความรุนแรงของอาการ เช่น กรณีเป็นการรักษาโรคเฉียบพลัน แพทย์อาจแนะนำให้ทำต่อเนื่องกัน 1-2 สัปดาห์ โดยทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อช่วยลดระดับสารก่อโรคหรือสารพิษในเลือด สำหรับกลุ่มที่ต้องการควบคุมโรคเรื้อรังหรือฟื้นฟูสุขภาพ อาจทำ 4-6 ครั้ง ภายใน 1-2 เดือน แล้วปรับความถี่ให้น้อยลงตามดุลยพินิจของแพทย์ ส่วนผู้ที่ทำเพื่อการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และไม่มีโรคประจำตัวรุนแรง แพทย์มักแนะนำให้ทำปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อช่วยขจัดของเสียและคงสมดุลการไหลเวียนเลือดให้ดีอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม ผู้เข้ารับบริการควรทำความเข้าใจว่าการทำ DFPP เป็นเพียงแนวทางเสริมในการฟื้นฟูสุขภาพ และไม่สามารถทดแทนการรักษาหลักได้ จึงควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อประเมินความเหมาะสมและความปลอดภัยก่อนเริ่มขั้นตอนการบำบัด
การเตรียมตัวก่อนทำ DFPP
- ตรวจสุขภาพและตรวจเลือดอย่างละเอียด เพื่อประเมินความพร้อมก่อนเริ่มกระบวนการฟอกเลือด
- งดอาหารและเครื่องดื่ม (ยกเว้นน้ำเปล่า) อย่างน้อย 12 ชั่วโมง หรือตามที่แพทย์แนะนำ
- งดใช้ยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดตามคำสั่งแพทย์
- พักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอ
วิธีดูแลตัวเองหลังทำ DFPP
- ดื่มน้ำสะอาดมากๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และส่งเสริมการฟื้นฟูของร่างกาย
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดสูบบุหรี่ และงดดื่มแอลกอฮอล์
- พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงเยอะภายใน 24 ชั่วโมงแรก
- รับประทานยาที่แพทย์จ่ายให้ และเข้าพบแพทย์ตามกำหนดนัด
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น เวียนหัวมาก เหนื่อยผิดปกติ มีอาการบวมช้ำรุนแรง หรือเลือดไหลไม่หยุด ควรเข้าพบแพทย์ทันที
สรุป
DFPP หรือ Double Filtration Plasmapheresis เป็นนวัตกรรมกรองพลาสมา 2 ชั้น ประสิทธิภาพสูง ช่วยลดปริมาณไขมัน สารพิษ ของเสียตกค้าง แอนติบอดี และโปรตีนที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ทำให้หลอดเลือดสะอาดมากขึ้น โดยไม่ต้องสูญเสียพลาสมาและองค์ประกอบสำคัญอื่นๆ เหมือนการฟอกเลือดแบบทั่วไป เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคหลอดเลือด โรคไขมันในเลือดสูง โรคภูมิคุ้มกันบางชนิดและต้องการฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัย ควรทำ DFPP ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น สนใจปรึกษาปัญหาสุขภาพ หรือวางแผนฟื้นฟูสุขภาพเฉพาะรายบุคคลด้วยการกรองเลือดเทคนิค DFPP สามารถติดต่อเราได้ที่เบอร์ 063-609-8888, Whatsapp +66 919799554 หรือทาง LINE: @linnaclinic ได้เลยค่ะ
