HIFU กับ MESO V Line A ต่างกันยังไงนะ

จริงๆแล้ว HIFU กับ MESO V Line A เนี่ย สามารถทำให้หน้าเราเล็กลง ปรับรูปหน้าของเราได้ทั้งสองแบบ แต่ทั้ง 2 อย่างนี้ไม่เหมือนกันอย่างที่คิด เดี๋ยวเรามาทำความรู้จักกับเจ้า 2 ตัวนี้กันก่อนดีกว่าค่ะ

MESO V Line A คือการฉีดสลายไขมัน ทำให้ผนังชั้นไขมันแตกตัวออก ไขมันที่เป็นกลุ่มก้อนจะสลาย และถูกกำจัดออกจากร่างกายด้วยวิธีธรรมชาติ และยังช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันให้ลดลงได้เร็วขึ้นด้วย สามารถใช้สลายไขมันสะสมได้ทุกจุดของร่างกายเลย แต่โดยส่วนมากจุดที่นิยมฉีดกันมากที่สุดคือ แก้มและเหนียงค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยสลายไขมันแล้ว ตัว V Line A เนี่ย ยังมี PEPTIDE ทำให้ผิวเฟิร์ม กระชับ ผิวไม่หย่อนคล้อยหลังฉีดอีกด้วย

ส่วน HIFU คือเทคโนโลยีการยกกระชับใบหน้า ด้วยการใช้ความร้อนจากคลื่นอัลตร้าซาวด์ที่มีพลังงานความถี่สูง โดยความร้อนนี้จะไม่เป็นอันตรายและไม่ก่อให้เกิดอาการแสบหรือรอยไหม้ที่ผิวหนังของเราได้ค่ะ แต่สามารถปล่อยคลื่นพลังงานให้โฟกัสเฉพาะจุด เพื่อเน้นบริเวณเนื้อเยื่อผิวหนังที่หย่อนยานมีการฟื้นฟูโดยการหดตัว ทำให้ผิวยกกระชับและดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บตัว และไม่ก่อให้เกิดรอยแผลเป็นด้วยค่ะ จากสรรพคุณของทั้ง 2 เนี่ย เราจะเห็นเลยว่า MESO V Line A และ HIFU สามารถปรับรูปหน้าได้ทั้งคู่ แต่ MESO V Line A จะเน้นไปทางการสลายไขมันมากกว่า แต่หากทำคู่กันจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ พอฉีดสลายไขมันแล้ว ก็ยกกระชับต่อเลย เป็นการปรับรูปหน้าแบบ x2 สลายไขมันพร้อมยกกระชับไปเลย!

Before & After

ปัญหาแก้ม - ร่องแก้ม แก้ได้ด้วย 'HIFU + V Line Plus'

สำหรับคนที่มีปัญหาแก้มย้อย แก้มใหญ่ และมีร่องแก้ม ลินนาขอแนะนำวิธีแก้ปัญหา ดังนี้นะคะ
✔️ อันดับแรก ฉีด V Line Plus เพื่อสลายไขมันบริเวณแก้ม/โหนกแก้ม ข้อดีของ V Line Plus นอกจากจะสลายไขมันแล้วนั้น ยังช่วยยกกระชับใบหน้าอีกด้วย
✔️ อันดับสอง HIFU ยกกระชับผิวให้เรียวขึ้น และยกกระชับร่องแก้มให้ตื้นขึ้น

สามารถแอดไลน์เพื่อปรึกษาหรือสอบถามโปรโมชั่นพิเศษของทางคลินิก ฟรี เพียง Click ที่ลิ้งค์:

Related Articles

วิธี ลดน้ำหนักแบบเร็ว โดยไม่พึ่งยาไม่โยโย่

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในปัจจุบันนั้น มีอาหารให้เราได้เลือกทานมากมาย โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอาหารหลากหลาย แถมยังมีรสชาติอร่อย ทำให้ใครหลายๆ คน โดยเฉพาะสาวๆ เกิดความกังวลเรื่องน้ำหนักที่อาจเพิ่มมากขึ้นได้ อีกทั้งด้วยวัยและอายุที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น ก็ทำให้ระบบการเผาผลาญนั้นทำได้น้อยลง เราจึงอยากมาแนะนำไอเดียสำหรับการลดน้ำหนักที่ทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่โยโย่ ไม่ต้องพึ่งพายาลดน้ำหนักที่ส่งผลเสียต่อร่างกายด้วย            1.หลีกเลี่ยงหรืองด อาหารที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น ขนม ของทอด ขนมกรุบกรอบ อาหารสำเร็จรูป ฯลฯ สำหรับใครที่ติดการทานขนม หรือการทานของหวาน ของทอดนั้น อาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยากในช่วงแรก แต่ถ้าหากเรามีความอดทนและหักห้ามใจได้สำเร็จ วิธีนี้จะส่งผลดีอย่างมาก ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพราะนอกจากความอร่อยแล้ว อาหารเหล่านี้ก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพของเราแต่อย่างใด สำหรับใครที่รู้สึกว่าการงดเลยในทันทีเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ก็อาจเลือกเป็นการค่อยๆ ลดปริมาณในการทานลง โดยใน 1 สัปดาห์ อาจมีการกำหนดว่าจะสามารถทานขนม หรือของทานเล่นได้กี่ครั้ง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญเลยนั่นก็คือ ไม่ควรหักโหมจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความเครียดได้ และเมื่อเกิดความเครียด ก็จะส่งผลให้เรารู้สึกท้อ และทำให้ไม่สามารถควบคุมอาหารได้ในที่สุด นอกจากนี้เราควบเลือกทานอาหารที่สมดุลและหลากหลาย เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ผักผลไม้

วิธีใช้เครื่อง HIFU ในการยกกระชับใบหน้ามีดังนี้

 ทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดและแห้ง ทาเจลหล่อลื่นบนใบหน้าบริเวณที่ต้องการทำ HIFU เลือกหัวยิงให้เหมาะกับบริเวณที่ต้องการทำ HIFU วางหัวยิงบนใบหน้าและกดปุ่มเพื่อเริ่มทำ HIFU เคลื่อนหัวยิงไปตามบริเวณที่ต้องการทำ HIFU โดยกดปุ่มยิงแต่ละจุดค้างไว้จนกว่าเสียงติ๊ดจะดังขึ้น ทำซ้ำขั้นตอน 5-6 กับบริเวณอื่น ๆ ที่ต้องการทำ HIFU ระยะเวลาในการทำ HIFU ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและระดับความลึกที่ต้องการยิง โดยปกติจะใช้เวลาแปะยาชาทิ้งไว้ 30 นาที และใช้เวลาทำอีกประมาณ 30-60 นาที หากทำไฮฟู่ที่ ลินนาคลินิก (LINNA CLINIC) ทั่วทั้งใบหน้าระยะเวลาอยู่ที่ 15 นาทีโดยที่ไม่ต้องแปะยาชา หลังทำ HIFU อาจจะมีอาการบวมแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน ผลลัพธ์ของการยกกระชับใบหน้าจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นภายใน 1-3 เดือน และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน  Table of Contents ข้อควรระวังในการทำ HIFU ห้ามทำ HIFU ในบริเวณที่มีแผลเปิดหรืออักเสบ ห้ามทำ HIFU ในบริเวณที่มีโลหะฝังอยู่

ไฮฟู (Hifu) ยกกระชับผิว

ไฮฟู (Hi-Fu) คือเทคโนโลยีการยกกระชับผิวหน้าแบบไม่ผ่าตัด โดยใช้คลื่นเสียงความเข้มข้นสูง (HIFU) ส่งพลังงานความร้อนไปยังชั้นผิวหนังชั้นลึก (SMAS) ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่รองรับผิวหน้า พลังงานความร้อนนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวหน้ากระชับขึ้น ริ้วรอยตื้นๆ จางลง และผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น Table of Contents ขั้นตอนการทำไฮฟู ทำความสะอาดผิวหน้าและทายาชา (หากต้องการ) ทาเจลเย็นบริเวณที่จะทำไฮฟูเพื่อปกป้องผิว แพทย์จะใช้หัวเครื่องไฮฟูจ่อไปที่บริเวณที่ต้องการรักษา แพทย์จะปล่อยพลังงานความร้อนจากเครื่องไฮฟูไปยังชั้นผิวหนังชั้นลึก การทำไฮฟูโดยปกติจะแปะยาชาทิ้งไว้ 30 นาที และใช้เวลาทำอีกประมาณ 30-60 นาที หากทำไฮฟู่ที่ ลินนาคลินิก (LINNA CLINIC) ทั่วทั้งใบหน้าระยะเวลาอยู่ที่ 15 นาทีโดยที่ไม่ต้องแปะยาชา ผลลัพธ์ของการทำไฮฟู ผลลัพธ์ของการทำไฮฟูจะเริ่มเห็นผลชัดเจน 1-3 เดือน อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น อายุ สภาพผิว และความลึกของริ้วรอย โดยทั่วไปแล้ว การทำไฮฟูสามารถช่วยลดริ้วรอยตื้นๆ ได้ถึง 50% และช่วยลดริ้วรอยลึกได้ถึง 30% นอกจากนี้ การทำไฮฟูยังสามารถช่วยยกกระชับผิวหน้า

Scroll to Top