หมอขออธิบายว่าโบท็อก (Botox) 100 ยูนิต หมายถึง ปริมาณของสารบอทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สกัดจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum จำนวน 100 ยูนิต มีคุณสมบัติในการทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า และลดขนาดกล้ามเนื้อกรามของคนไข้ค่ะ ทั้งนี้ โบท็อก (Botox) 100 ยูนิต ไม่สามารถเทียบเป็น cc ได้นะคะ เนื่องจากต้องนำไปผสมน้ำเกลือก่อนค่ะ
Table of Contents
ประสิทธิภาพของการฉีด 100 ยูนิต
หมอแจ้งให้ทราบถึงประสิทธิภาพของการฉีดโบท็อก (Botox) 100 ยูนิต ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
- ปัญหาที่ต้องการแก้ไข: หากต้องการลดริ้วรอยทั่วหน้า ปริมาณ 100 ยูนิต ถือว่าเพียงพอ หากต้องการลดขนาดกรามหรือฉีดลิฟติ้งใบหน้าอาจต้องใช้โบท็อกมากกว่า 100 ยูนิตค่ะ
- สภาพผิวและกล้ามเนื้อของแต่ละคน: คนที่มีผิวบางหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาจต้องการปริมาณน้อยกว่า
- ประวัติการฉีดโบท็อก(Botox): หากเคยฉีดมาก่อน แพทย์อาจปรับปริมาณตามผลลัพธ์ที่ผ่านมา
โดยปกติแล้ว การฉีดโบท็อก(Botox) 100 ยูนิต สามารถช่วยลดริ้วรอยต่างๆ เช่น รอยตีนกา รอยหน้าผาก รอยยิ้ม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเห็นผลชัดเจนภายใน 2-4 สัปดาห์ และอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลและสภาพผิว หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น อาจต้องฉีดซ้ำอีกครั้ง โดยเว้นระยะห่างอย่างน้อย 3 เดือน
โบท็อก (Botox) 100 ยูนิต ฉีดจุดไหนดีไม่อยากหน้าแข็ง
การแจ้งหมอก่อนฉีดโบท็อกว่าต้องการผลลัพธ์ให้ออกมาเป็นธรรมชาติ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้หมอประเมินปัญหาและวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม หมอจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ตำแหน่งที่ต้องการฉีด ปริมาณโบท็อกที่ใช้ เทคนิคการฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการของคนไข้มากที่สุด
นอกจากนี้ แพทย์อาจพิจารณาฉีดโบท็อก (Botox) ในปริมาณที่น้อยลงในบางบริเวณ โดยเน้นการฉีดเฉพาะจุดที่ทำให้เกิดริ้วรอยเยอะๆเท่านั้น เช่น ฉีดโบท็อก (Botox) บริเวณกล้ามเนื้อหน้าผากเพียงไม่กี่ยูนิต ร่วมกับฉีดโบท็อก (Botox) บริเวณหางตาอีกไม่กี่ยูนิต ก็สามารถช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้หน้าแข็งค่ะ
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า โบท็อก (Botox) 100 ยูนิต สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้และแพทย์จะประเมินใบหน้าเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละคน โดยปริมาณยาที่ใช้ต่อจุดก็แตกต่างกันไป หมอขอเเจ้งถึงปริมาณคร่าวๆที่ควรฉีดต่อจุด เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนดังนี้ค่ะ
ลดริ้วรอย
- หน้าผาก สำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ส่งผลให้หน้าดูเรียบเนียนขึ้น ฉีดปริมาณ 10-30 ยูนิต
- หางตา สำหรับผู้ที่ต้องการลดรอยตีนกา ฉีดปริมาณ 16-20 ยูนิต
- ระหว่างคิ้ว สำหรับผู้ที่ต้องการลดรอยขมวดคิ้ว 10-25 ยูนิต
- ใต้ตา สำหรับผู้ที่ต้องการลดรอยคล้ำใต้ตา ถุงใต้ตา และรอยย่นใต้ตา ฉีดปริมาณ 15-20 ยูนิต
- รอยย่นจมูก สำหรับผู้ที่ต้องการลดรอยย่นบริเวณสันจมูก ฉีดปริมาณ 5-10 ยูนิต
ปรับรูปหน้า
- กราม สำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น โดยโบท็อก (Botox) จะไปทำหน้าที่คลายกล้ามเนื้อบริเวณกราม ทำให้กล้ามเนื้อกรามไม่ทำงาน ส่งผลให้กรามเล็กลงและใบหน้าดูเรียวขึ้น ฉีดปริมาณ 2-5ยูนิต
- ลิฟต์กรอบหน้า สำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น โดยโบท็อก (Botox) จะไปทำหน้าที่คลายกล้ามเนื้อบริเวณกรอบหน้า ทำให้กล้ามเนื้อกรอบหน้าไม่ทำงาน ส่งผลให้กรอบหน้ายกกระชับขึ้น ใบหน้าดูเรียวขึ้น ฉีดปริมาณ 30-50 ยูนิต
- ปีกจมูก สำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงปีกจมูกให้เล็กลง โดยโบท็อก (Botox) จะไปทำหน้าที่คลายกล้ามเนื้อบริเวณปีกจมูก ทำให้ปีกจมูกไม่กว้างขึ้นเวลายิ้ม ส่งผลให้จมูกดูเรียวเล็กขึ้น ฉีดปริมาณ 2 ยูนิต
- ยกคิ้ว สำหรับผู้ที่ต้องการยกคิ้วให้สูงขึ้น โดยโบท็อก (Botox) จะไปทำหน้าที่คลายกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผาก ทำให้กล้ามเนื้อหน้าผากไม่ทำงาน ส่งผลให้คิ้วยกขึ้น ใบหน้าดูสดใสขึ้น ฉีดปริมาณ 2-5 ยูนิต
- รอยย่นคาง สำหรับผู้ที่ต้องการลดรอยย่นบริเวณคาง โดยโบท็อก (Botox) จะไปทำหน้าที่คลายกล้ามเนื้อบริเวณคาง ทำให้กล้ามเนื้อคางไม่ทำงาน ส่งผลให้รอยย่นบริเวณคางลดลง ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น ฉีดปริมาณ 10-15 ยูนิต
ปริมาณโบท็อกฉีดส่วนอื่นบนลำตัว
- ต้นขา สำหรับผู้ที่มีปัญหาต้นขาใหญ่จากกล้ามเนื้อ เช่น ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือผู้ที่ทำงานที่ต้องยืนหรือเดินนานๆ ส่งผลให้คลายกล้ามเนื้อน่องให้ดูเล็กลง ฉีดปริมาณ 50-100 ยูนิต
- น่อง สำหรับผู้ที่มีปัญหาน่องปูด ขาใหญ่ สาเหตุของน่องปูดส่งผลให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง ขาจึงดูเรียวขึ้น น่องปูดน้อยลงฉีดปริมาณ 50-100 ยูนิต
- เท้า(ลดเหงื่อ)สำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกเท้ามากเกินไปจนรบกวนชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ทำให้ต่อมเหงื่อผลิตเหงื่อได้น้อยลงหรือแทบจะไม่มีเลย ฉีดปริมาณ100-200 ยูนิต
- ลดเหงื่อ ที่รักแร้ สำหรับผู้ที่ต้องการลดปัญหาเหงื่อออกมากเกินไปบริเวณรักแร้ โดยโบท็อก (Botox) จะไปทำหน้าที่คลายกล้ามเนื้อบริเวณรักแร้ ทำให้ต่อมเหงื่อบริเวณรักแร้ทำงานน้อยลง ส่งผลให้เหงื่อออกน้อยลง ฉีดปริมาณ 50-100 ยูนิต
- มือ(ลดเหงื่อ)การฉีดโบท็อกมือ (ลดเหงื่อ) เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมากผิดปกติ (hyperhidrosis) บริเวณฝ่ามือ ส่งผลให้ต่อมเหงื่อผลิตเหงื่อลดลง ส่งผลให้มือแห้งขึ้น ฉีดปริมาณ 50-100 ยูนิต
- Office Syndrome สามารถช่วยได้ในกรณีที่มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ ฉีดปริมาณ 50-100 ยูนิต
ฉีดโบท็อก (Botox) ทั่วหน้า โดยปกติใช้โบท็อกประมาณ 100-180 ยูนิต ขึ้นอยู่กับปัญหา ความต้องการ ปริมาณกล้ามเนื้อกราม และปริมาณริ้วรอยของแต่ละเคส แพทย์จะประเมินตัวยาที่เหมาะสมให้ค่ะ บางครั้ง 100 ยูนิต อาจไม่เพียงพอสำหรับบางเคส เช่น กรามใหญ่ ริ้วรอยลึก อาจต้องใช้มากกว่านี้ ส่วนในเคสที่ริ้วรอยน้อย กรามไม่ใหญ่ 100 ยูนิต อาจเพียงพอ จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและแนะนำปริมาณที่เหมาะสมนะคะ
ไม่ควรฉีดโบท็อก (Botox) ในแต่ละครั้งเกินกี่ยูนิต
หมอไม่แนะนำให้ฉีดโบท็อก (Botox) เกิน 300 ยูนิต ในการทำครั้งเดียว เพื่อความปลอดภัยและป้องกันผลข้างเคียงที่อาจ เพิ่มโอกาสที่ร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานได้ง่ายขึ้น และจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการดื้อยาค่ะ
ทั้งนี้หมอขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า ปลอดภัยที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แพทย์จะประเมินปัจจัยทั้งหมด และกำหนดปริมาณโบท็อก (Botox) ที่เหมาะสมให้กับแต่ละบุคคล ป้องกันทั้งผลข้างเคียง การดื้อโบท็อก (Botox) รวมถึงผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมชาติ
- ผลข้างเคียง เช่น หน้าแข็ง ทื่อ ปากเบี้ยว คิ้วตก เป็นต้น
- การดื้อโบท็อก (Botox) ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อสารโบท็อก (Botox) ทำให้โบท็อก (Botox) ออกฤทธิ์ได้น้อยลง
- ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมชาติ หากฉีดจำนวนยูนิตมากเกินไป หน้าอาจดูแข็ง ตึง ไม่เป็นธรรมชาติ
แพทย์จะประเมินสภาพใบหน้า ประวัติการแพ้ยา ปัญหาที่ต้องการแก้ไข และกำหนดปริมาณโบท็อกที่เหมาะสมให้ค่ะ
สรุปก็คือ ยูนิตของโบท็อกเป็นหน่วยวัดปริมาณของสารโบทูลินัม ท็อกซิน ซึ่งปริมาณที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจที่ ลินนาคลินิก (LINNA CLINIC) เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์รวมถึงตัวยาที่ใช้ปลอดภัยมี อย. มั่นใจได้และคนไข้สามารถปรึกษาลินนาคลินิกได้ที่เบอร์ 063-609-8888 หรือทางไลน์ @linnaclinic โดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ