LINNA Clinic คว้า 2 รางวัลใหญ่จาก PRAEW ICONIC BEAUTY 2025 การันตีความเป็นผู้นำด้าน HIFU 4 ปีซ้อน!!

เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ LINNA Clinic ที่ปีนี้คว้า 2 รางวัลใหญ่จาก PRAEW ICONIC BEAUTY 2025 เมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งถือเป็นโปรเจกต์เรือธงของนิตยสารแพรว ซึ่งจัดต่อเนื่องมาถึงปีที่ 11 และเป็นมาตรฐานสำคัญในการคัดสรรผลิตภัณฑ์และบริการความงามที่ดีที่สุดของไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Icon of Perfection” สะท้อนแนวคิดว่า ความสมบูรณ์แบบไม่ได้มีสูตรสำเร็จ แต่คือความพอใจในแบบของตนเอง

โดยในปีนี้ LINNA Clinic ได้รับถึง 2 รางวัลทรงเกียรติ ได้แก่

  • Hall of Fame

รางวัลนี้ถือเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดในงาน PRAEW ICONIC BEAUTY ที่ไม่ได้มอบให้กับทุกแบรนด์ แต่คัดเลือกเฉพาะผู้ที่สามารถรักษามาตรฐานคุณภาพและความน่าเชื่อถือได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน สะท้อนถึงความมั่นคงและความเป็นผู้นำที่แท้จริงในวงการความงาม

ปีนี้ LINNA Clinic ได้รับการประกาศเกียรติยศเข้าสู่ Hall of Fame อย่างสง่างาม พร้อมทั้ง คุณว่าน – กุศลิน ลัญจกรกุล ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ LINNA Clinic ยังได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 11 บุคคลผู้ทรงวิสัยทัศน์ ที่ถูกเชิดชูโดยทีมแพรว ว่าเป็นผู้สร้างนิยามใหม่ให้กับความงามที่สมบูรณ์แบบ

Hall of Fame – Praew Iconic Beauty 2025

“ในโอกาสครบรอบ 11 ปีอันรุ่งโรจน์ แพรว ไอคอนนิก บิวตี้ ขอเชิดชูเกียรติ 11 บุคคลผู้ทรงวิสัยทัศน์ ที่ได้สร้างความหมายใหม่ให้กับคำว่า ‘ความงามที่สมบูรณ์แบบ’ งานนี้ไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง แต่เป็นแรงบันดาลใจในการส่งเสริมให้ทุกคนรักความงาม กล้าที่จะมั่นใจ รักและเห็นคุณค่าในตัวเอง และงดงามอย่างมีเอกลักษณ์ในแบบของตนเอง” — ทีมแพรว

  • The Supreme HIFU Program for Skin Firmness

อีกหนึ่งรางวัลที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับ LINNA Clinic ในปีนี้ คือ The Supreme HIFU Program for Skin Firmness รางวัลที่ยกให้เป็น ที่สุดของโปรแกรมยกกระชับผิวแห่งปี เพราะสามารถผสานนวัตกรรมที่ล้ำสมัย เข้ากับเทคนิคการดูแลที่พิถีพิถันและแม่นยำ จนได้ผลลัพธ์ที่ทั้งปลอดภัยและชัดเจน สิ่งนี้เองที่ทำให้ LINNA Clinic ครองแชมป์ด้าน HIFU ต่อเนื่องถึง 4 ปีซ้อน

เบื้องหลังความสำเร็จคือ HIFU 8D by LINNA โปรแกรมซิกเนเจอร์ที่แตกต่างจาก HIFU แบบทั่วไป เพราะสามารถยิงพลังงานได้หลายมิติ ครอบคลุมตั้งแต่ผิวชั้นตื้นไปจนถึงชั้นลึกอย่าง SMAS ทำให้ได้ผลลัพธ์การยกกระชับที่ คม ชัด และเป็นธรรมชาติ มากกว่า อีกทั้งยังเจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและฝีมือเฉพาะทางของทีมแพทย์ HIFU 8D ของ LINNA Clinic จึงกลายเป็นชื่อที่ลูกค้านึกถึงอันดับหนึ่ง และคือเหตุผลว่าทำไมลินนาถึงคว้ารางวัล Supreme HIFU และครองแชมป์ต่อเนื่อง 4 ปีซ้อนอย่างไร้ข้อกังขา

บรรยากาศงาน PRAEW ICONIC BEAUTY 2025 ณ One Bangkok เต็มไปด้วยเหล่าคนบิวตี้ตัวจริง ทั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ครีเอเตอร์ชื่อดัง และแขกคนดังมากมาย อาทิ ลุค อิชิคาว่า พลาวเด้น, สน–ยุกต์ ส่งไพศาล, และ หญิง–รฐา โพธิ์งาม ที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในค่ำคืนแห่งความงามและความสำเร็จ

และที่พิเศษที่สุด คือการที่ คุณว่าน – กุศลิน ลัญจกรกุล ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ ขึ้นเวทีเพื่อรับรางวัลด้วยตนเอง ท่ามกลางเสียงปรบมือจากแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน ภาพบนเวทีจึงไม่เพียงสะท้อนความสำเร็จของธุรกิจ แต่ยังตอกย้ำบทบาทของผู้หญิงรุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนวงการความงามและสุขภาพให้ก้าวไปข้างหน้า

บทความที่เกี่ยวข้อง

วัคซีนโควิด (COVID-19 Vaccine) คืออะไร? มีข้อดีข้อเสียอย่างไร?

ตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 “วัคซีน” ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยปกป้องชีวิตผู้คนทั่วโลก ลดความรุนแรงของโรค และช่วยให้ระบบสาธารณสุขกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง (World Health Organization, 2023; European Medicines Agency, 2022) แต่ในขณะเดียวกัน การฉีดวัคซีนก็ไม่ได้หมายความว่า “ไม่มีความเสี่ยง” เพราะเช่นเดียวกับการรักษาทางการแพทย์ทุกประเภท วัคซีนก็อาจมีผลข้างเคียงหรืออาการไม่พึงประสงค์ในบางคนได้เช่นกัน (Centers for Disease Control and Prevention, 2022). แม้วัคซีนโควิดจะมีประโยชน์อย่างมากในการลดความรุนแรงของโรคโควิดและช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย แต่ในอีกด้านหนึ่ง วัคซีนก็มี “ข้อจำกัดและผลข้างเคียง” ที่ควรรู้ไว้เช่นกัน เช่น อาการไข้ ปวดเมื่อย หรือในบางรายอาจมีอาการแพ้หรืออักเสบที่ต้องสังเกตเป็นพิเศษ (Patone et al., 2022). การเข้าใจทั้งข้อดีและข้อเสียของวัคซีนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล พร้อมดูแลร่างกายได้ถูกวิธี ทั้งก่อนและหลังการฉีดวัคซีน บทความนี้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่หลักการทำงาน ประเภทของวัคซีน ผลข้างเคียง ภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้น ไปจนถึงแนวทางดูแลและฟื้นฟูร่างกายหลังฉีดอย่างปลอดภัย เพื่อให้คุณเข้าใจว่า วัคซีนคือเครื่องมือสำคัญในการป้องกันโรค แต่ก็ยังต้องอาศัยการดูแลสุขภาพอย่างรอบด้าน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด Table of Contents

โปรตีนหนาม (Spike Protein) คืออะไร? อาการและผลข้างเคียงที่ควรรู้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คำว่า “โปรตีนหนาม” (Spike Protein) กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในยุคโควิด-19 เพราะโปรตีนชนิดนี้เป็นทั้ง กลไกสำคัญที่ไวรัสใช้เข้าสู่เซลล์ของมนุษย์ และเป็น ส่วนประกอบหลักของวัคซีนรุ่นใหม่ ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกายต่อสู้กับโรค COVID-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านหนึ่ง “โปรตีนหนาม” (Spike Protein) ถือเป็น “เครื่องมือสำคัญ” ที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถจดจำเชื้อไวรัสและสร้างภูมิคุ้มกันได้รวดเร็วเมื่อติดเชื้อจริง แต่อีกด้านหนึ่ง “โปรตีนหนาม” (Spike Protein) หากคงอยู่ในร่างกายนานเกินไป หรือ กระตุ้นภูมิคุ้มกันมากเกินจำเป็น ก็อาจเป็นสาเหตุของ ภาวะอักเสบเรื้อรัง ส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น เหนื่อยง่าย สมองล้า นอนไม่หลับ ปวดเมื่อย หรือภาวะคล้าย Long COVID นอกจากนี้ยังมีรายงานทางการแพทย์ที่ชี้ให้เห็นว่า Spike Protein อาจเกี่ยวข้องกับภาวะ หลอดเลือดอักเสบ (Vasculitis), กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis), สมองล้า (Brain Fog) และ ภาวะภูมิคุ้มกันไวเกิน (Autoimmune-like Response)

เปรียบเทียบ Plasmapheresis VS EBOO Therapy โปรแกรม ฟื้นฟูสุขภาพแบบไหนเหมาะกับคุณ?

ในยุคปัจจุบันที่ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ปริมาณไขมันในเลือดเพิ่มสูงขึ้น และมีสารพิษตกค้างภายในร่างกายโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่เกิดจากพฤติกรมการรับประทานอาหาร ยาและสารเคมี มลภาวะในสิ่งแวดล้อม รวมถึงเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เมื่อภายในเลือดเต็มไปด้วยไขมันและของเสียก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน ด้วยเหตุนี้ ผู้คนจำนวนมากจึงเริ่มหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการบำบัดในรูปแบบของการแพทย์ทางเลือก (Alternative Medicine) ที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งยาเพื่อลดภาวะข้างเคียงในระยะยาว อย่างการทำ Plasmapheresis และ EBOO/EBO2 Therapy ซึ่งทั้งสองวิธีมีแนวทางการบำบัดและคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน Plasmapheresis หรือ EBOO Therapy ควรเลือกทำแบบไหน? ข้อดี-ข้อเสีย ของการฟื้นฟูร่างกายแต่ละรูปแบบเป็นอย่างไร บทความนี้จาก Linna Clinic (ลินนา คลินิก) พร้อมนำเสนอข้อมูลเปรียบเทียบอย่างครบถ้วน เพื่อช่วยให้ผู้ที่สนใจใช้เป็นข้อมูลเพื่อเลือกแนวทางการบำบัดได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย Table of Contents Plasmapheresis คืออะไร? Plasmapheresis คือ กระบวนการทำความสะอาดเลือดด้วยการแยกพลาสมา (Plasma) ออกจากเซลล์เม็ดเลือดโดยใช้เครื่องกรองที่มีความจำเพาะ เพื่อกำจัดหรือลดปริมาณสารที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ไขมันเลว (LDL) ไตรกลีเซอไรด์ สารกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ หรือโปรตีนที่ก่อให้เกิดการอักเสบ

Shopping Cart
Scroll to Top