Anti-Aging

FAQ เกี่ยวกับ EBOO Therapy: รวมคำถามที่พบบ่อยก่อนตัดสินใจทำ

EBOO Therapy (Extracorporeal Blood Oxygenation and Ozonation) เป็นการบำบัดที่ใช้โอโซนทางการแพทย์มาผสมกับเลือดนอกร่างกาย ก่อนนำกลับเข้าสู่ร่างกายอย่างปลอดภัย กระบวนการนี้มีจุดเด่นในการช่วยขจัดสารพิษ เพิ่มออกซิเจนในเลือด และช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ปัจจุบัน EBOO Therapy ได้รับการยอมรับว่าเป็นวิธีที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพให้ดีขึ้นแบบองค์รวมพร้อมเสริมสร้างสมดุลของร่างกายได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตามหลายคนอาจมีคำถามเกี่ยวกับกระบวนการทำ EBOO Therapy รวมถึงผลลัพธ์และข้อควรระวังก่อนเข้ารับบริการ LINNA Clinic (ลินนา คลินิก) ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำ EBOO Therapy เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจเข้ารับการบำบัดด้วยวิธีนี้   Table of Contents ระยะเวลาการทำ EBOO Therapy ใช้เวลานานแค่ไหน? โดยทั่วไประยะเวลาที่ใช้ในการทำ EBOO Therapy จะอยู่ที่ประมาณ 45-60 นาทีต่อครั้ง ทั้งนี้ระยะเวลาที่ใช้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของเส้นเลือด อัตราการไหลเวียนโลหิต และความสามารถในการตอบสนองต่อโอโซนของร่างกายแต่ละบุคคล หลังจากทำเสร็จผู้เข้าบำบัดสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น EBOO Therapy ควรทำบ่อยแค่ไหน? ความถี่ในการทำ EBOO Therapy ขึ้นอยู่กับสภาวะสุขภาพและเป้าหมายของผู้เข้าบำบัด ในกรณีที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพจากภาวะเรื้อรัง เช่น อาการเหนื่อยล้าสะสม […]

FAQ เกี่ยวกับ EBOO Therapy: รวมคำถามที่พบบ่อยก่อนตัดสินใจทำ اقرأ المزيد »

EBOO Therapy การบำบัดเพื่อฟื้นฟูหลอดเลือดหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19

ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 การฉีดวัคซีนโควิด-19 ถือเป็นมาตรการสำคัญเพื่อการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ช่วยลดความรุนแรงของโรคและป้องกันการเสียชีวิตหลังได้รับเชื้อ ถึงแม้วัคซีนจะมีประโยชน์อยู่ด้วยกันหลายประการแต่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ในบางกรณี เช่น ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน (Thrombosis) ซึ่งแม้จะพบได้ไม่บ่อยนักแต่ก็เป็นประเด็นที่หลายๆ คนรู้สึกกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงเป็นทุนเดิม ส่งผลให้นวัตกรรมฟื้นฟูหลอดเลือดกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำคัญที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ EBOO Therapy (Extracorporeal Blood Oxygenation and Ozonation) หรือการบำบัดด้วยโอโซนทางหลอดเลือดที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูระบบไหลเวียนโลหิต ขจัดสารพิษและเสริมสร้างความสมดุลให้ร่างกายหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 วัคซีน covid-19 ทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันจริงหรือไม่? มีวิธีฟื้นฟูร่างกายด้วยวิธีใดบ้าง ติดตามคำตอบได้พร้อมๆ กันในบทความนี้จาก LINNA Clinic (ลินนา คลินิก) Table of Contents วัคซีน covid-19 ทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันจริงหรือไม่? แม้ว่าวัคซีนโควิด-19 จะมีบทบาทสำคัญในการลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต แต่ก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงบางอย่าง หนึ่งในนั้นคือ ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน (Thrombosis) ร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากการจับตัวของเกล็ดเลือดส่งผลให้เลือดไหลเวียนผิดปกติ จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่าวัคซีนชนิดไวรัสเวกเตอร์ (Viral Vector Vaccines) ที่ใช้ไวรัสอะดีโนเป็นพาหะ เช่น AstraZeneca และ Johnson &

EBOO Therapy การบำบัดเพื่อฟื้นฟูหลอดเลือดหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 اقرأ المزيد »

NAD+ คืออะไร? รู้จักประโยชน์ของ NAD+ ดีจริงไหม? วิธีเพิ่มระดับ NAD+ ในร่างกาย

รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีเรี่ยวแรง สมองไม่ปลอดโปร่ง สาเหตุของอาการเหล่านี้อาจไม่ใช่แค่เพียงความเครียดหรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่ยังสัมพันธ์กับระดับ NAD+ ในร่างกายที่ลดลงไปตามวัย ส่งผลให้ระบบต่างๆ ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ร่างกายจึงรู้สึกอ่อนล้าได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามด้วยความก้าวหน้าของนวัตกรรมเพื่อการส่งเสริมสุขภาพเราจึงสามารถเพิ่ม NAD+ ใหม่ๆ ให้ร่างกายได้หลายรูปแบบ ทั้งจากอาหาร อาหารเสริม และเทคนิคการแพทย์อย่างการทำ NAD+ Therapy โดยแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อช่วยฟื้นฟูพลังงานระดับเซลล์ได้อย่างตรงจุด NAD+ คืออะไร? ดีจริงไหม? และเราจะเพิ่มระดับ NAD+ ในร่างกายได้อย่างไรบ้าง LINNA Clinic (ลินนา คลินิก) มีคำตอบ Table of Contents NAD+ คืออะไร? สำคัญอย่างไร? NAD+ หรือ Nicotinamide Adenine Dinucleotide คือ โคเอนไซม์ที่จัดอยู่ในกลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินบี 3 ซึ่งมีบทบาทหลักในกระบวนการผลิตพลังงาน (ATP) ของเซลล์ ช่วยซ่อมแซม DNA ที่เสียหายให้กลับสู่สภาวะปกติ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์กลุ่ม Sirtuins ซึ่งเกี่ยวข้องกับการชะลอวัยและเสริมสร้างสุขภาพโดยรวม

NAD+ คืออะไร? รู้จักประโยชน์ของ NAD+ ดีจริงไหม? วิธีเพิ่มระดับ NAD+ ในร่างกาย اقرأ المزيد »

7 หัตถการความงามที่คนเลือกทำที่สุดในเมืองไทย

การทำหัตถการกลายเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ทำ หรือจะเป็นเรื่องของการช่วยดูแลผิวพรรณให้ดูดี สวยงาม อ่อนเยาว์แม้จะอยู่ในช่วงอายุที่เยอะแล้วก็ตาม อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ มาดูหัตถการที่ได้รับความนิยมและมีคนเลือกทำมากที่สุดในเมืองไทย ว่าจะมีอะไรกันบ้าง 1.Botox Fillers Botox เป็นสารที่สกัดจากโปรตีนของแบคทีเรียชนิดหนึ่ง (Clostridium botulinum) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยคลายกล้ามเนื้อชั่วคราว โดยหลักการทำงานคือการหยุดส่งสัญญาณจากเส้นประสาทไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและไม่หดเกร็ง โบทอกลดริ้วรอย เรียกได้ว่าเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในทุกๆ ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคนในช่วงวัยที่เริ่มรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มมีรอยยับหรือรอยย่น การฉีดโบทอกเพื่อลดริ้วรอยจึงตอบโจทย์เป็นอย่างมาก สำหรับใครที่ต้องการให้ใบหน้าเต่งตึง ไม่มีรอยยับหรือรอยย่น อีกทั้งโบทอกในปัจจุบันนั้น มีราคาที่ย่อมเยาลงอย่างมาก แถมยังมีให้เลือกฉีดได้หลากหลายยี่ห้ออีกด้วย ในส่วนของ Fillers ซึ่งเป็นสารเติมเต็มที่ส่วนใหญ่ทำจาก Hyaluronic Acid (HA) สารที่มีอยู่ในผิวตามธรรมชาติ ทำหน้าที่กักเก็บน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้น ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะใช้ฟิลเลอร์เพื่อการเติมเต็มร่องลึกหรือริ้วรอยบนใบหน้าแล้ว ฟิลเลอร์ก็ยังใช้สำหรับการปรับรูปหน้าให้กระชับ ได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยให้ผิวอิ่มฟู กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่มีส่วนสำคัญในการช่วยให้ผิวของเราแข็งแรง ดูอ่อนเยายิ่งขึ้น ปรับโครงสร้างใบหน้า และเติมเต็มในจุดที่ขาดได้เป็นอย่างดี 2.ยกกระชับใบหน้า หัตถการที่ได้รับความนิยมรองลงมานั่นก็คือ การยกกระชับใบหน้า อย่าง HIFU หรือ Thermage นั่นเอง โดย HIFU

7 หัตถการความงามที่คนเลือกทำที่สุดในเมืองไทย اقرأ المزيد »

Curcumin Drip คืออะไร (ดริปวิตามินสารสกัดจากขมิ้นชัน) ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง รักษามะเร็งได้จริงไหม?

การดูแลสุขภาพในยุคปัจจุบันก้าวล้ำไปอีกชั้น ด้วยนวัตกรรมซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูร่างกายได้จากภายใน หนึ่งในนั้นคือ Curcumin Drip หรือดริปวิตามินสารสกัดจากขมิ้นชัน ที่กำลังได้รับความสนใจในแวดวงสุขภาพ ด้วยคุณสมบัติเด่นของเคอร์คูมินซึ่งเป็นสารสำคัญในขมิ้นชันที่ขึ้นชื่อเรื่องการต้านการอักเสบ ช่วยฟื้นฟูร่างกาย เสริมระบบภูมิคุ้มกัน และยังถูกพูดถึงในฐานะตัวช่วยที่อาจมีบทบาทในด้านการรักษามะเร็ง สำหรับผู้ที่สนใจ Curcumin Drip บทความนี้จาก LINNA Clinic (ลินนา คลินิก) พาทำความรู้จัก Curcumin Drip อย่างละเอียด ทั้งประโยชน์ที่น่าสนใจ Curcumin Drip เหมาะกับใคร? ช่วยรักษามะเร็งได้จริงหรือไม่ ตลอดไปจนถึงวิธีการเตรียมตัวก่อนและหลังทำ Curcumin Drip เพื่อให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด https://www.linnaclinic.com/wp-content/uploads/2025/02/ใส่LOGO-LINNA.mov Table of Contents Curcumin Drip คืออะไร Curcumin Drip คือการให้สารสกัดเคอร์คูมิน (Curcumin) ซึ่งเป็นสารสำคัญในขมิ้นชัน ผ่านทางหลอดเลือดโดยตรง เคอร์คูมินเป็นสารที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ จึงมีส่วนช่วยในการป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง การดริปเคอร์คูมินเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรงช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าการรับประทานทั่วไป Curcumin Drip ช่วยเรื่องอะไร

Curcumin Drip คืออะไร (ดริปวิตามินสารสกัดจากขมิ้นชัน) ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง รักษามะเร็งได้จริงไหม? اقرأ المزيد »

เปรียบเทียบ Ozone Therapy และ Eboo Therapy ต่างกันอย่างไร

https://youtu.be/MW0H1IOAzeU?si=nAwLz5TBRq15oVkc ในยุคที่การดูแลสุขภาพกลายเป็นสิ่งสำคัญ นวัตกรรมการบำบัดเพื่อฟื้นฟูร่างกายจากภายในอย่าง Ozone Therapy จึงได้รับความสนใจในวงกว้าง ด้วยคุณสมบัติในการเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงได้จากภายใน พร้อมตัวเลือกเทคนิคหลากหลาย เช่น Direct Intravenous Ozone, Major Autohemotherapy, Hyperbaric Ozone Therapy และ EBOO Therapy ที่ตอบโจทย์ทั้งคนไข้และผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพในเชิงป้องกัน บทความนี้จาก LINNA Clinic รวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโอโซนบำบัด เปรียบเทียบจุดเด่นของแต่ละเทคนิค พร้อมเผยเหตุผลที่ EBOO Therapy ได้รับการยอมรับว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง รวมถึงรีวิวผลเลือดจริงจากผู้ใช้บริการ Ozone Therapy EBOO Technique ที่ LINNA Clinic (ลินนา คลินิก) Table of Contents การให้โอโซนมีกี่รูปแบบ? ปัจจุบันการบำบัดด้วยโอโซน (Ozone Therapy) ถูกพัฒนาออกมาหลากหลายรูปแบบ โดยสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มหลักได้ ดังนี้ Direct Intravenous Ozone (DIV) เป็นการฉีดก๊าซโอโซนระดับความเข้มข้น

เปรียบเทียบ Ozone Therapy และ Eboo Therapy ต่างกันอย่างไร اقرأ المزيد »

ความดันสูงคืออะไร? เกิดจากอะไร คุณเป็นความดันสูงไหม อาการเป็นอย่างไร ดูแลตัวเองอย่างไร

ความดันสูง (Hypertension) เป็นภาวะสุขภาพที่พบได้ 1 ใน 5 ของคนไทย อีกหนึ่งภัยเงียบที่แอบแฝงอยู่ในร่างกายซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะไม่แสดงอาการของโรคอย่างชัดเจนจนกระทั่งเข้าสู่ระยะรุนแรงและเกิดโรคเรื้อรังอื่นๆ ตามมาส่งผลให้ผู้ป่วยพิการหรือเสียชีวิตได้ การดูแลระดับความดันให้เป็นปกติอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ LINNA Clinic ชวนทำความเข้าใจ ความดันสูง คืออะไร? อาการแบบไหนบ่งชี้ว่าคุณอาจเป็นภาวะความดันสูง พร้อมวิธีดูแลตัวเองและทางเลือกสำหรับการลดภาวะความดันสูงด้วย Alternative Medicine การแพทย์ทางเลือกโดยไม่ต้องใช้ยา Table of Contents ความดันสูงคืออะไร ความดันสูง (Hypertension) คือ ภาวะที่ค่าความดันโลหิตสูงกว่าระดับปกติต่อเนื่องกันเป็นเวลานานซึ่งค่าความดันปกติของคนทั่วไปจะอยู่ที่ 120/80 มิลลิเมตรปรอท ส่วนผู้ที่เริ่มมีภาวะความดันสูงมักตรวจพบค่าความดันโลหิตมากกว่าหรือเท่ากับ 140/90 มิลลิเมตรปรอท โดยสามารถแบ่งภาวะความดันสูงออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่  ความดันสูงชนิด Primary Hypertension เป็นภาวะความดันสูงที่พบได้มากถึงร้อยละ 95 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุเนื่องจากความดันสูงประเภทนี้อาจกินเวลาต่อเนื่องได้หลายสิบปีและจะแสดงอาการของโรคเมื่อเข้าสู่ระยะรุนแรง ความดันสูงชนิด Secondary Hypertension เป็นภาวะความดันสูงที่พบได้น้อยกว่าและมักปรากฏอาการของโรคขึ้นอย่างกะทันหันซึ่งโดยส่วนใหญ่เกิดจากความผิดปกติของอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ต่อมหมวกไต โรคของต่อมไร้ท่อ ความผิดปกติของฮอร์โมน ฯลฯ รวมไปจนถึงการได้รับสารเคมี การใช้สารเสพติดหรือใช้ยาบางชนิด คุณเป็นความดันสูงไหม

ความดันสูงคืออะไร? เกิดจากอะไร คุณเป็นความดันสูงไหม อาการเป็นอย่างไร ดูแลตัวเองอย่างไร اقرأ المزيد »

เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ขัน ดีขึ้นได้ ด้วย 5 วิธีนี้ โดยไม่ต้องพึ่งยา

นกเขาไม่ขัน หรือ โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นปัญหาสุขภาพที่คุณผู้ชายหลายคนต้องพบเจอ จากข้อมูลพบว่ามีผู้ชายมากกว่า 152 ล้านคนทั่วโลกที่กำลังประสบกับปัญหานี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออายุมากขึ้นหรือต้องเจอกับความเครียดในชีวิตประจำวัน ปัญหานกเขาไม่ขันไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย แต่ยังสร้างบาดแผลทางจิตใจ ทำให้เกิดความวิตกกังวล ซึมเศร้าหรือรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง นอกจากนี้ยังอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ในชีวิตคู่และการวางแผนมีบุตรในอนาคต หากคุณผู้ชายท่านไหนที่กำลังประสบปัญหานกเขาไม่ขัน อวัยวะเพศไม่แข็งตัว และกำลังมองหาวิธีฟื้นฟูร่างกายโดยไม่ต้องพึ่งพายา บทความนี้จาก LINNA Clinic มีคำตอบ Table of Contents โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ คืออะไร โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ขัน มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction: ED) คือ ภาวะที่อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว หรือไม่สามารถแข็งตัวได้นานพอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวหรือเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจนสร้างผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคุณผู้ชายทั้งด้านสุขภาพร่างกายเนื่องจากภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ขัน อาจเป็นสัญญาณขั้นต้นของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวานหรือความผิดปกติของฮอร์โมน ด้านอารมณ์และจิตใจ ทำให้คุณผู้ชายรู้สึกอับอาย วิตกกังวลหรือซึมเศร้า อีกทั้งยังส่งผลต่อชีวิตคู่ ทำให้ความสัมพันธ์เกิดความตึงเครียดและเปราะบาง อาการและสาเหตุของโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ อาการของโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ขัน อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ไม่สามารถทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ หรือแข็งตัวได้ไม่เพียงสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ การแข็งตัวของอวัยวะเพศไม่คงที่ อวัยวะเพศสามารถแข็งตัวได้ในช่วงเริ่มต้นแต่ไม่สามารถรักษาสภาพการแข็งตัวไว้ได้ตลอดระยะเวลาการปฏิบัติกิจทางเพศ ส่งผลให้ไม่เกิดความพึงพอใจหรือความสำเร็จในการมีเพศสัมพันธ์

เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ขัน ดีขึ้นได้ ด้วย 5 วิธีนี้ โดยไม่ต้องพึ่งยา اقرأ المزيد »

Long Covid (ลองโควิด) คืออะไร? อาการเป็นอย่างไร วิธีฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงทำอย่างไร

Long Covid (ลองโควิด) ภาวะความผิดปกติของร่างกายที่อาจเกิดขึ้นได้หลังหายจากการติดเชื้อไวรัส Covid 19 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว  แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ที่ระบุสาเหตุอย่างชัดเจน แต่พบว่าผู้ที่เคยติดเชื้อโควิดมีโอกาสเผชิญกับภาวะนี้สูงถึง 30-50% โดยอาการและความรุนแรงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางรายมีอาการเพียงไม่กี่สัปดาห์ ในขณะที่บางรายอาจเผชิญปัญหานานหลายเดือน สำหรับใครที่เคยป่วยเป็นโรคโควิด 19 มาก่อนและรู้สึกว่าร่างกายยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ หรือสงสัยว่าตนเองอาจกำลังเผชิญกับภาวะ Long Covid อยู่หรือไม่? บทความนี้จาก LINNA Clinic ชวนทำความเข้าใจอาการ Long Covid อย่างละเอียด ตั้งแต่อาการที่พบได้บ่อย ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง รวมถึงแนวทางการฟื้นฟูร่างกายจากอาการ Long Covid เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติและมีความสุขอีกครั้ง Table of Contents Long Covid (ลองโควิด) คืออะไร Long Covid (ลองโควิด) มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า Post-COVID Syndrome คือ กลุ่มอาการเดิมที่ยังคงหลงเหลืออยู่หรืออาจเป็นอาการใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นหลังจากผู้ป่วยหายจากโรค Covid 19 ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักมีอาการ Long Covid ภายในช่วง 3

Long Covid (ลองโควิด) คืออะไร? อาการเป็นอย่างไร วิธีฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงทำอย่างไร اقرأ المزيد »

เบาหวานคืออะไร อาการเป็นอย่างไร? เบาหวานหายได้ไหม? วิธีป้องกันเบาหวานมีอะไรบ้าง? หายจากเบาหวานได้อย่างไร?

“เบาหวาน” หนึ่งในโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คนทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยซึ่งในปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคเบาหวานสะสมมากกว่า 3.3 ล้านคน และพบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกช่วงอายุ ผู้ป่วยเบาหวานในระยะเริ่มต้นอาจไม่มีอาการที่สังเกตได้ชัดเจนในทันที แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแลอย่างเหมาะสมอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงอื่นๆ ตามา เช่น โรคหัวใจ โรคไตและปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น อย่างไรก็ตามมีวิธีดูแลและฟื้นฟูร่างกายสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปกติและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น Table of Contents เบาหวาน คืออะไร มีกี่ระยะ? เบาหวาน (Diabetes) คือ โรคที่เกิดจากความผิดปกติในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากร่างกายไม่สามารถผลิตหรือใช้งานฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งฮอร์โมนอินซูลินมีหน้าที่ช่วยให้เซลล์ดูดซึมน้ำตาลที่อยู่ในเลือดเพื่อนำไปใช้เป็นแหล่งพลังงานและเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การเกิดโรคเบาหวานโดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะตามความรุนแรงของอาการ ดังนี้ ระยะก่อนเบาหวาน เป็นระยะที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติแต่ยังไม่ถึงเกณฑ์วินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน ในระยะนี้จะไม่มีอาการผิดปกติที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนแต่อาจมีสัญญาณเตือนบางอย่างจากร่างกายเกี่ยวกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เช่น หิวบ่อย กระหายน้ำ ปัสสาวะบ่อย อ่อนเพลีย ฯลฯ ระยะเบาหวาน เป็นระยะที่มีระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่าหรือเท่ากับ 126 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ซึ่งวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 ชนิดหลักๆ ได้แก่ เบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลิน

เบาหวานคืออะไร อาการเป็นอย่างไร? เบาหวานหายได้ไหม? วิธีป้องกันเบาหวานมีอะไรบ้าง? หายจากเบาหวานได้อย่างไร? اقرأ المزيد »

โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ สาเหตุ อาการและวิธีป้องกันที่ควรรู้

โรคหัวใจ (Heart Disease) เป็นกลุ่มของโรคและสภาวะที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพและชีวิต โดยประเภทของโรคหัวใจที่พบบ่อยมีหลายชนิด ได้แก่ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคกล้ามเนื้อหัวใจ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรคลิ้นหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease: CAD) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆ ของคนไทย การเตรียมความพร้อมและมองหาวิธีป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นแนวทางสำคัญในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคและส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น Table of Contents โรคหลอดเลือดหัวใจ คืออะไร โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease: CAD) คือ ภาวะที่หลอดเลือดแดงซึ่งทำหน้าที่หล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ (Coronary Arteries) เกิดการตีบแคบหรืออุดตันเนื่องจากมีการสะสมตะกอนไขมัน คอเลสเตอรอลหรือแคลเซียมภายในผนังหลอดเลือด โดยเรียกกระบวนการเหล่านี้ว่า ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ทำให้เลือดไหลเวียนไปยังกล้ามเนื้อหัวใจน้อยลง ส่งผลให้หัวใจได้รับออกซิเจน (Oxygen) และสารอาหารจำเป็นไม่เพียงพอต่อความต้องการ หากหลอดเลือดแดงตีบแคบจนเกิดการอุดตัน อาจทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Heart Attack) ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงที่อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที สัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจในระยะเริ่มต้นมักไม่แสดงอาการอย่างชัดเจน เนื่องจากการสะสมของไขมันและคราบต่างๆ เกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตามเมื่อโรคหลอดเลือดหัวใจมีความรุนแรงมากขึ้นอาจมีสัญญาณเตือนของโรค ดังนี้ มีอาการเจ็บแน่นหน้าอก (Angina)

โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ สาเหตุ อาการและวิธีป้องกันที่ควรรู้ اقرأ المزيد »

โรค Stroke คืออะไร? สาเหตุ อาการของโรค และวิธีป้องกัน

โรค Stroke หรือโรคหลอดเลือดสมองนับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต แขนขาอ่อนแรงจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหรือในเคสที่มีภาวะสมองขาดเลือดเฉียบพลันรุนแรงอาจส่งผลทำให้ถึงแก่ชีวิต หลายคนอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับโรค Stroke หรือโรคหลอดเลือดสมองกันอยู่บ่อยครั้งและคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวแต่ในความเป็นจริงแล้วโรค Stroke มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงเป็นทุนเดิม โรค Stroke เกิดจากอะไร? อาการเบื้องต้นของโรคเป็นแบบไหน มีวิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันโรค Stoke ได้อย่างไร บทความนี้จาก LINNA Clinic มีคำตอบ พร้อมทางเลือกใหม่ของการช่วยฟื้นฟูร่างกายจากโรค Stroke ที่น่าสนใจด้วยนวัตกรรม Ozone Therapy (EBOO PLUS Technique) โดยอาจารย์แพทย์มากประสบการณ์ที่ LINNA Clinic Table of Contents โรค Stroke หรือ โรคหลอดเลือดสมอง คืออะไร โรค Stroke หรือ โรคหลอดเลือดสมอง คือ ภาวะที่ร่างกายไม่สามารถส่งเลือดไปเลี้ยงเซลล์สมองได้อย่างเพียงพอเนื่องจากความผิดปกติของหลอดเลือดแดง เช่น ภาวะหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Ischemic stroke) หลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic stroke) ส่งผลให้สมองขาดเลือดและออกซิเจนทำให้เซลล์สมองตาย ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจนำไปสู่ภาวะทุพพลภาพ

โรค Stroke คืออะไร? สาเหตุ อาการของโรค และวิธีป้องกัน اقرأ المزيد »

Shopping Cart
Scroll to Top